‘ลุงตู่เฉย’ อยู่ต่อเสบย

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

หลังจากทำหน้าที่ตอบปัญหาการเมืองแทนนายกรัฐมนตรี “นายกฯ สแตนดี้” หรือ “ลุงตู่เฉย” 17 ตัว ก็พร้อมแล้วที่จะถ่ายภาพคู่กับเด็กๆ ในงานวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล

ไม่ต้องห่วง “ลุงตู่เฉย” ยังอยู่ให้เซลฟีอีกนาน ท่าทียังเปี่ยมความเชื่อมั่น ใครว่าวิกฤติศรัทธาก็ไม่สะทกสะท้าน ปัดโธ่ นักวิชาการเขียน ส.ค.ส.เปิดผนึก ขึ้นต้นบอกว่าศรัทธาลดลงอย่างมาก ลงท้ายก็ยังเห็นท่านเป็นคนดี ให้กำลังใจ ขอให้รักษาความดีไปชั่วกาลนาน

ใครจะวิพากษ์วิจารณ์นาฬิกาพี่ป้อม เรือนที่ 17 เรือนที่ 18 ก็ช่าง “ลุงตู่เฉย” ไม่จำเป็นต้องชี้แจง ลุงตู่โชว์ ไม่ชิมร้านติดดาวมิเชลินด้วยซ้ำ เดี๋ยวจะเป็นแบบอย่าง กินอาหารราคาแพงไม่พอเพียง

พี่ป้อมไม่ใช่นักการเมือง ลุงตู่เป็นนักการเมือง เป็นคนของประชาชน รู้จักวางตัว ให้ชาวบ้านเชื่อมั่นว่าท่านสัตย์ซื่อสมถะ เรื่องคนอื่นท่านไม่เกี่ยว ไม่ว่าพี่ว่าน้อง หรือหน่วยงานของรัฐ เช่นจับทุจริตโครงการ 9101 ก็ยังได้รับคำชม จับทุจริตเงินทอนวัด ก็เกิดใต้จมูกรัฐบาลนี้ สตง.ไล่จี้ตำบลละ 5 ล้าน หมู่บ้านละ 2 แสน ก็ต้องชมว่าขันแข็งเอาจริง

เหมือนซื้อเรือดำน้ำจีน ซื้อรถถังเครื่องบิน ใช้ ม.44 สร้างรถไฟจีน โดยยกเว้นหลักเกณฑ์ตรวจสอบ ผู้คนก็ยังเชื่อมั่นว่าท่านสัตย์ซื่อสมถะ

พอจะเข้าสู่เลือกตั้ง ไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งจะตั้งพรรคสนับสนุนท่านก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องเสนอชื่อลุงตู่อยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค เพื่อให้ท่านวางตัวเป็นกลาง หลังเลือกตั้งค่อยรวบรวม ส.ส. ส.ว.ให้ครบ 375 คน รอพรรคการเมืองตั้งรัฐบาลไม่ได้ ค่อยเสนอลุงตู่เป็นนายกฯ ตามมาตรา 272 วรรคสอง

ฟังแล้วเท่จัง แปลว่าเราจะมีพรรคการเมืองเก่าใหม่ประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่ใส่ชื่อท่านใน 3 ชื่อที่เสนอเป็นนายกฯ เพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าการเลือกตั้งใต้ ม.44 เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ลุงตู่เป็นกลาง ไม่มีการใช้อำนาจรัฐ อำนาจทหาร กลั่นแกล้ง 2 พรรคใหญ่ที่ไม่ยอมสยบ กกต.ที่เลือกจาก สนช.ก็จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา หลังเลือกตั้งพรรคเหล่านี้ค่อยไปจับมือกับ 250 ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้ง เลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อย่างสง่างาม เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดพฤษภา 35 ซ้ำรอย

นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในอำนาจและสืบทอดอำนาจสบายๆ เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว รัฐบาลออกมาตรการเอาใจชาวบ้านนับไม่ทัน ประชาสัมพันธ์ถี่ยิบ แถมยังจะทำให้คนจนที่ลงทะเบียนไว้ 11 ล้านคนหายจน

ว่าที่จริง เศรษฐกิจ 4% ก็งั้นๆ กระจายไม่ถึงฐานราก มีแต่มาตรการเบี้ยหัวแตก ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น อยู่ที่คนไม่มีทางเลือกต่างหาก ต่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาพบนาฬิกาอีกร้อยเรือน พบทุจริตมโหฬาร หรือเลือกตั้งไม่เป็นกลาง ใช้อำนาจกันดื้อๆ ก็ไม่มีคนลุกฮือปิดเมืองปิดสถานที่ราชการไล่ คสช.หรอก

มิพักต้องพูดถึงว่า การไล่นักการเมืองเลือกตั้งโดยมีขั้วอำนาจหนุน ทำได้ง่ายกว่า สังคมไทยวันนี้ไม่ซ้ำรอยพฤษภา 35 เพราะมองไปข้างหน้ามืดมน ไม่เห็นอนาคต ไม่สามารถบอกว่าหมด คสช.แล้วประเทศจะดีขึ้น อาจจะยังไม่มีความหวัง ไม่เห็นทางออกอยู่ดี ความกลัว ความมืดมน ที่เป็นอยู่นี้ ทำให้คนไทยยอมรับสภาพ ทนอยู่กับการจำกัดสิทธิ วิถีชีวิต รวมทั้งเศรษฐกิจที่แย่กว่ายุคก่อนๆ

สภาพอย่างนี้แหละ ที่ทำให้ลุงตู่เฉย ไม่ว่าใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็เฉย อยู่ต่อได้เสบย