สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการสถาบันการเงินแข็งแกร่ง โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,803.19 จุด เพิ่มขึ้น 228.46 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,786.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.68 จุด หรือ +0.67% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 7,261.06 จุด เพิ่มขึ้น 49.28 จุด หรือ +0.68%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลเยอรมนี

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.31% ปิดที่ 398.49 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,245.03 จุด เพิ่มขึ้น 42.13 จุด หรือ +0.32% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,517.06 จุด เพิ่มขึ้น 28.51 จุด หรือ +0.52% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,778.64 จุด เพิ่มขึ้น 15.70 จุด หรือ +0.20%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่าผลประกอบการภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,778.64 จุด เพิ่มขึ้น 15.70 จุด หรือ +0.20%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 0.94% ปิดที่ 1,334.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 17.5 เซนต์ หรือ 1.03% ปิดที่ 17.141 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 996.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 29.10 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1105.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) โดยเป็นการดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากความคิดเห็นของรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซียที่ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิบโลกยังไปไม่ถึงจุดสมดุล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 64.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 61  เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 69.87  ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน และเยอรมนีบรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาล

ยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐสู่ระดับ 1.2182 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2038 ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3534 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะ 0.7912 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7893 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.05 เยน จากระดับ 111.11 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9686 ฟรังก์ จากระดับ 0.9761 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนานาที่ระดับ 1.2486 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์แคนาดา