สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ม.ค. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สหรัฐอาจต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,792.86 จุด ลดลง 10.33 จุด หรือ -0.04% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,223.69 จุด ลดลง 37.38 จุด หรือ -0.51% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,776.42 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ของเยอรมนี ขณะที่หุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้น หลังจากสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 398.35 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,246.33 จุด เพิ่มขึ้น 45.82 จุด หรือ +0.35% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,513.82 จุด เพิ่มขึ้น 4.13 จุด หรือ +0.07% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,755.93 จุด ลดลง 13.21 จุด หรือ -0.17%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากนักวิเคราะห์ของเอชเอสบีซีได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทเหมืองรายใหญ่อย่างริโอทินโต และแองโกล อเมริกัน ขณะที่หุ้นบีพีร่วงลง หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/2560 อาจะได้รับผลกระทบจากการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายจากน้ำมันรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโก สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ระเบิดที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,755.93 จุด ลดลง 13.21 จุด หรือ -0.17%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.11 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 69.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การปรับฐานลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ระดับ 1337.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.8 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 17.189 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,004.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 17.20 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,088.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร และสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB อาจยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2272 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2182 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3797 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3734 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7963 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7912 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.30 เยน จากระดับ 111.05 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9587 ฟรังก์ จากระดับ 0.9686 ฟรังก์