CRD ซิ่งแรง 12% นิวไฮรอบ 2 เดือน ลุ้นผลประมูล 4 งานใหม่ม.ค.นี้-แจกปันผลประจำปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD ปิดตลาดวันนี้ อยู่ที่ 1.46 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 12.31% สูงสุดที่ 1.47 บาท ต่ำสุดที่ 1.29 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63.14 ล้านบาท

โดย ราคาหุ้น CRD ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.46 บาท เมื่อวันที่ 6 พ.ย.60

ทั้งนี้มีการรายงานว่า CRD เตรียมปิดงบการเงินปี 60 เพื่อเตรียมพิจารณาจ่ายปันผลประจำปีให้ผู้ถือหุ้นจากผลงานที่เติบโตได้ตามเป้าหมาย ส่วนแผนงานในปีนี้บริษัทเดินหน้าเข้าประมูลงานภาครัฐที่มีทั้งงานด้านสาธารณูปโภค และอาคารสิ่งปลูกสร้าง อาทิ สถานีไฟฟ้า โครงการระบบบำบัดน้ำเสีย และอาคารเรียน ตลอดจนงานก่อสร้างต่างๆในภาคเอกชนที่ขณะนี้เห็นแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเติมงานในมือ (backlog) ที่มีอยู่แล้วกว่า 800 ล้านบาท

นอกจากนี้ นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ CRD เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในเดือนม.ค.61 จะรู้ผลประมูลงานที่เข้าร่วมประมูล 4 งาน มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะมีโอกาสได้รับงาน 30-40% ของมูลค่างาน และทั้งปี 61 คาดบริษัทจะได้รับงานใหม่ราว 1.3-1.5 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีงานใหม่ประมาณ 800 ล้านบาทซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 60 งานในมือ( Backlog) อยู่ที่ 800 -900 ล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ในปี 61 ทั้งหมด 

สำหรับปีนี้บริษัทคาดจะรุกงานเอกชนเป็นส่วนใหญ่ เป็นงานสร้างโรงแรม คอนโดมิเนียม ในเชียงใหม่ที่ได้รับอานิสงส์จากธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนงานราชการในปีนี้ยังมีไม่ค่อยมาก อาทิ งานก่อสร้างหอดูดาวที่เขียงใหม่ มูลค่า 80 ล้านบาทรู้ผลในมี.ค. 61

ขณะที่งานที่บริษัทติดตามส่วนใหญ่จะเข้าประมูลงาน งบประมาณเลื่อนออกไปก็คาดว่าปี 62 งานจะเข้ามามาก อย่างเช่น งานก่อสร้างสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย 2 แห่งๆละ 400 ล้านบาท รวม 800 ล้านบาท งานปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่สตูล มูลค่างาน 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมองว่าโอกาสงานภาครัฐในจ.เชียงใหม่จะมีมากขึ้นที่เตรียมเปิดให้เอกชนเข้าประมูลงานในเร็วๆนี้ ได้แก่ โครงการขยายสนามบินเชียงใหม่  งานระบบรางภายในเมืองเชียงใหม่ งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่-เชียงของ ซึ่งในว่าส่วนรถไฟทางคู่เส้นนี้ บริษัทอาจจะจับมือพันธมิตรจีน เพื่อจะได้รับงานรับเหมาช่วง ซึ่งงานเหล่านี้มีมูลค่างานสูง รวมทั้งมองหางานภาครัฐในภูมิภาคอื่นด้วย นอกจากภูเก็ต และ กรุงเทพฯที่บริษัทรับงานนอกเหนือจ.เชียงใหม่

ทั้งนี้คาดว่าในปี 61 กำไรสุทธิน่าจะดีกว่าปีก่อน โดยจะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 4% และ อัตรากำไรขั้นต้นที่ 8-10% ใกล้เคียงปี 60 ส่วนรายได้ในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 10% จากปี 60 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.4 พันล้านบาท

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยง บริษัทเห็นว่าเป็นเรื่องกฎหมายแรงงานที่ยังไม่มีความชัดเจน แต่เรื่องการปรับขึ้นค่าแรง หากปรับขึ้น 15 บาท/วัน ก็ถือว่ายอมรับได้ ไม่ได้เป็นต้นทุนที่สูงขึ้นมาก ไม่มีผลต่อกำไร