คลังเตรียมโละพอร์ตหุ้นอาบอบนวด! จับตาใครรับไม้ต่อบริหาร “เดวิส กรุ๊ป”
กระทรวงการคลังประกาศขายหุ้น “เดวิสกรุ๊ป” หลังถือยาว 6 ปี จับตาใครรับไม้ต่อบริหารธุรกิจอาบอบนวด
รายงานข่าวจาก น.ส.ปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่ากระทรวงการคลังมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในกลุ่มเดวิส 4 บริษัท ซึ่งได้รับโอนมาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของบริษัท เดวิส ไดมอนด์สตาร์ จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น, บริษัท เดวิส โคปา คาบานา จำกัด จำนวน 6,000 หุ้น, บริษัท เดวิส โกลเด้นท์สตาร์ จำกัด จำนวน 7,446 หุ้น และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น นั้น
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ขอชี้แจงข้อเท็จจริงสำหรับกรณีดังกล่าว ดังนี้
1.กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการถือครองและบริหารหลักทรัพย์ของรัฐ ซึ่งรวมถึงการถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน โดยหุ้นของบริษัทต่างๆ ที่กระทรวงการคลังถือครองในปัจจุบันได้รับมาโดยวิธีการต่างๆ เช่น การลงทุนตามนโยบายภาครัฐ การลงทุนเพิ่มเติมตามสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิม และการได้รับหลักทรัพย์มาโดยนิติเหตุหรือจากการยึดทรัพย์ตามคำพิพากษาของศาล
2.หุ้นในกลุ่มบริษัทเดวิสทั้ง 4 บริษัทข้างต้น กระทรวงการคลังได้รับโอนมาตามคำสั่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2555 ซึ่งเป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกา และหุ้นดังกล่าวได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555
3.ปัจจุบันกระทรวงการคลังมีนโยบายที่จะจำหน่ายหลักทรัพย์ที่หน่วยงานของรัฐไม่จำเป็นต้องถือครอง ได้แก่ หุ้นที่ได้รับมาโดยนิติเหตุหรือยึดทรัพย์ หุ้นที่หมดความจำเป็นตามนโยบายของภาครัฐ และหุ้นในบริษัทในอุตสาหกรรมที่เอกชนดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท. และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 เห็นชอบในการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ไม่จำเป็นต้องถือครองตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และเห็นชอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาวิธีการจำหน่ายและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐ
4.ปัจจุบันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจำหน่ายหุ้นตามมติคณะรัฐมนตรีข้างต้น ซึ่งรวมถึงหุ้นในกลุ่มบริษัทเดวิสทั้ง 4 บริษัทดังกล่าว ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการจำหน่ายหุ้นได้ภายในปี 2561
ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าว” รายงานว่า ภายหลังจากมีการรายงานข่าวในวันนี้ถึงกรณีที่กระทรวงการคลังจะทำการจำหน่ายหุ้นกลุ่มเดวิสทั้ง 4 บริษัท ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังไม่เคยเปิดเผยว่าได้เข้าถือหุ้นในกลุ่มเดวิสที่ดำเนินธุรกิจอาบอบนวด ซึ่งเดิมเป็นของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย อดีตสมาชิกพรรคสู้เพื่อไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย
นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า กระทรวงการคลังได้รับโอนหุ้นกลุ่มเดวิสมาตามคำสั่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อกระทรวงการคลังตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 แต่กระทรวงการคลังกลับประกาศขายหุ้นออกมาในปีนี้ เท่ากับว่าคลังถือหุ้นดังกล่าวนานถึง 6 ปี
ขณะที่ประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่น่าจับตาว่า ใครจะเป็นผู้รับซื้อหุ้นกลุ่มเดวิสที่กระทรวงการคลังจะทำการขายออกมาภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะรายงานให้ทราบในครั้งต่อไป
อนึ่งสาเหตุที่กระทรวงการคลังถือหุ้นในกลุ่มเดวิส เนื่องจากหุ้นดังกล่าวถูกคณะกรรมการธุรกรรมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) อายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2546 ต่อมาถูกโอนให้กระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2555
พร้อมกับหุ้นอาบอบนวดของนายชูวิทย์อีก 3 บริษัทรวมเป็น 4 บริษัท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเป็นธุระ จัดหา ล่อไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม เป็นการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี ,เป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี มีบุคคลซึ่งมีอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีทำการค้าประเวณีรวมอยู่ด้วย
อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (2) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือ ซ่อนเร้น ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด