BBL ขาย JASIF
มีคำถามเกิดขึ้นครับ เป็นคำถามหลังจากธนาคารกรุงเทพ (BBL) ขายหน่วยลงทุนที่ถืออยู่ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ออกมา 380 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 4.41 พันล้านบาท
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
มีคำถามเกิดขึ้นครับ
เป็นคำถามหลังจากธนาคารกรุงเทพ (BBL) ขายหน่วยลงทุนที่ถืออยู่ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ออกมา 380 ล้านหน่วย มูลค่ารวม 4.41 พันล้านบาท
ส่วนราคาขายคือ 11.60 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด เพราะเป็นการซื้อแบบบิ๊กล็อต
ส่วนกลุ่มทุนที่เข้ามารับซื้อนั้น
มีทั้งนักลงทุนสถาบันในประเทศ ต่างประเทศ และนักลงทุนบุคคล
แต่มีข้อมูลยืนยันว่า บิ๊กล็อตที่เกิดขึ้น จะมีสัดส่วนการขายให้กับกองทุนต่างประเทศเป็นจำนวนที่มากกว่า
สังเกตได้จากมูลค่าการซื้อขายหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 5.50 พันล้านบาท
นักวิเคราะห์บอกตรงกันว่า วอลุ่มที่พลิกเป็นซื้อ หลักๆ ก็มาจากดีล JASIF นั่นแหละ
ส่วนธุรกรรมในครั้งนี้ มี “มอร์แกน สแตนลีย์” เป็นฝ่ายที่ทำดีลให้ หรือให้ผู้ที่ต้องการขาย กับผู้ที่ต้องการซื้อมาพบกัน และเป็นออเดอร์ที่ผ่าน บล.บัวหลวง (BLS)
และในวันนั้น บล.บัวหลวง มีมาร์เก็ตแชร์ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ด้วยตัวเลข 11.51%
การขายหน่วยลงทุนแบบนี้ถือว่า “มีนัยสำคัญ”
จริงๆ แล้ว ผมพยายามเช็กข้อมูลกับคนที่ใกล้ชิดกับดีลดังกล่าวทั้งหมด
แต่ข้อมูลที่ได้รับนั้นแตกต่างกันไปเล็กน้อย
แหล่งข่าวบางคนบอกว่าเป็นการ “ปรับพอร์ต” ธรรมดาของ BBL
และ BBL (อาจ) กลับเข้ามาซื้อใหม่อีกครั้ง หลังจากการขายสินทรัพย์เฟส 2 เข้า JASIF แล้วเสร็จ
สำหรับ JASIF นั้น อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อขายสินทรัพย์เฟส 2 มูลค่าเกือบ 5 หมื่นล้านบาท เข้ามายังกองทุนฯ
ธุรกรรมที่ว่านี้มี บล.บัวหลวง ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
และมี บลจ.บัวหลวง เป็นผู้จัดการกองทุน
ขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ JASIF ก่อนหน้านี้ ก็จะพบว่า BBL ถือหุ้นในหน่วยลงทุนอยู่กว่า 467 ล้านหน่วย (ขายออกไปแล้ว 380 ล้านหน่วย)
ก็ยังมี บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) และ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) ถือหุ้นอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีนักลงทุนสถาบันที่เป็นกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อีกหลายแห่ง ต่างถือหน่วยลงทุนของ JASIF รวมถึงบริษัทประกันชีวิต และประกันภัย (วินาศภัย) ด้วย
ที่ผ่านมา JASIF เป็นหุ้นที่เป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานให้ผลตอบแทนที่ดีมาก
มีการจ่ายปันผลเป็นรายไตรมาส หรือรวม 4 ครั้งต่อปี
เฉลี่ยต่อครั้งจะอยู่ราวๆ 0.21–0.24 บาทต่อหน่วยลงทุน
หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจาก ณ ราคาปัจจุบัน ประมาณ 8%
แต่หากใครซื้อหน่วยลงทุนไว้ในราคาต่ำกว่าปัจจุบัน ก็อาจมีตัวเลขผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีถึง 9% โดยเฉพาะช่วงที่ราคาได้ลงไปอยู่แถวๆ 9.00-10.00 บาท
มีการคำนวณจากนักวิเคราะห์ด้วยครับ
หากสินทรัพย์เข้าเฟส 2 ดำเนินการแล้วเสร็จนั้น ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 10% (เมื่อส่งมอบสินทรัพย์แล้วเสร็จ)
มีหุ้นเพียงไม่กี่ตัวในตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงขนาดนี้
วานนี้ ราคาหุ้น JASIF ขึ้นไปสูงสุด 12.10 บาท และลงมาต่ำสุด 11.90 บาท และมาปิดตลาด 12.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
มูลค่าการซื้อขายกว่า 375.7 ล้านบาท
ถือว่าหุ้นไม่ได้แพนิกมากนัก
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังถือหุ้น JASIF อยู่
ตามกำหนดการนั้น JASIF เฟส 2 จะแล้วเสร็จทั้งหมดและพร้อมเข้าเทรดได้ในช่วงไตรมาส 3/2561
ผมคุยกับนักลงทุนสถาบันรายอื่นๆ ที่ถือหน่วยลงทุนใน JASIF
แม้จะมีเสียงยอมรับว่า “แปลกใจ” ที่ BBL ขายออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องขายตาม
เพราะพื้นฐานของ JASIF ไม่ได้เปลี่ยน