วิ่งสู้ฟัด!

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้ยินเสียงมิตรรักแฟนคลับร้องเฮไปทั่วห้องค้า หลังหุ้นบลูชิพที่ไล่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จนสร้างความหวังให้กับผู้เล่นมองเป้าด้านบนที่สูงขึ้นกว่าเดิมนั้น มันเป็นเรื่องที่หลายคนรู้อยู่แก่ใจมาระยะหนึ่ง แต่ไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ผลที่ออกมาถึงเห็นหลายคนออกอาการ เฮ้อ..เสียดายจัง! ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดิมๆ ที่เวียนมาบรรจบอีกรอบไงล่ะค่ะ

*หากจับจังหวะของการลงทุนในเที่ยวนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง นักเล่นน่าจะมองเห็นสัญญาณการเทกตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,850 จุด ต่อจากนั้นโดนแรงเทขายตอดนิดตอดหน่อยเป็นระยะ ก่อนจะโดนถล่มอย่างไม่ปรานีปราศรัย จนดัชนีรูดลงกลับมายืนอยู่ที่ 1,800 จุด ก่อนจะมีการดันกลับขึ้นมาอีกรอบ วานนี้ถึงเห็นดัชนียืนปิดที่ 1,837.49 จุด บวกไป 8.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.43 หมื่นล้านบาทพะยะค่ะ

*วันนี้ถึงต้องส่องกล้องมองดูดัชนีดาวโจนส์มีทิศทางไปทางไหน? เพราะจะเป็นตัวชี้นำตลาดหุ้นทั่วโลกให้ไปในทิศทางนั้น หรือจะใช้เรื่องสัญญาณเทคนิคมาเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง “โมนิก้า” มองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และอย่าได้ลังเลใจเมื่อถึงจังหวะต้อง “ลุย” หรือ “ถอย” แถมหุ้นหลายตัวที่โดนเทขายอย่างหนักก่อนหน้านี้ กลายเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการเคาะขวาแบบมันๆ..แม่นบ่!

*เหมือนกับการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของหุ้น BANPU  จนทะยานขึ้นไปยืนเหนือ 23 บาท แต่ดันโดนเทขายอย่างหนัก หุ้นถึงรูดลงมาย่ำฐานที่ระดับ 20.60 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 22.50 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่า 2.37 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความพลิกผันที่ทำให้ความฝันในการเทกตัวขึ้นไปหายอดเดิมง่ายขึ้นในทันที เพราะเที่ยวนี้เป็นการเล่นบนอารมณ์ล้วนๆ เจ้าค่ะ

*เมื่อหุ้นตัวแรกยังกลับมาอย่างแข็งแกร่ง หุ้นแบงก์ดาวเด่นอย่าง KBANK จึงกลายเป็นที่หมายปองของนักเล่นเช่นกัน แรงซื้อถึงไหลตามเข้ามาเป็นจำนวนมาก วานนี้หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 232 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่า 2.78 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่เกินความสามารถจริงๆ จึงไม่ขออธิบายอะไรให้มากความ เพราะช่วงนี้หุ้นเจ้าเก่ากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งนะจ๊ะ

*ส่วนที่กลับมามีความสดใสเต็มตัวอีกครั้ง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นดีแตก UV หลังทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง 5 ปีซ้อน มันเป็นช็อตที่ทำให้มองกลับไปที่ยอดเดิมบริเวณราคา 12-13 บาท บวกกับราคาปิดดังกล่าวเป็นการเทรดบน P/E 16 เท่า ซึ่งมันต่ำเกินไปสำหรับที่มีสตอรี่เรื่องเติบโตมาให้เล่นเป็นระยะ วันนี้น่าเห็นพวกขาซิ่งใส่กันไฟแลบอีกวันนะจะบอกให้..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลือบไปดูหุ้นในกระดาน Most Gainer ก็สะดุดตาเข้ากับหุ้น RSP เพราะข่าวเม้าท์กันอย่างสนุกสนานในทำนองทุกอย่างเดินไปตามแผน พวกนกรู้ถึงกระโจนใส่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนวานนี้หุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 7.15         บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 185 ล้านบาท มันสะท้อนว่าเล่นรอบใหม่วันนี้มีลุ้นขึ้นไปหาเป้าหมาย 8.50 บาทนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ MONO ดูตามรูปการณ์ไม่น่าจะมีอะไรแปลกประประหลาด เพราะหุ้นขึ้นมาเยอะเกินไป ก็ต้องถูกเทขายเป็นธรรมดา บวกกับบรรยากาศการลงทุนไม่ค่อยจะสู้ดี หุ้นถึงมีอาการเป๋ไปบ้างในบางช่วงบางเวลา แต่สุดท้ายหุ้นก็วิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.88 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่า 115 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วน หลังธุรกิจอยู่ในช่วงขาขึ้นเต็มตัวนะซี!

*ส่วนในรายของ RS ก็มาทรงเดียวกับรายข้างต้น พอเริ่มเห็นอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้นเรื่อยๆ พวกขาลุยก็ไล่ราคากันระเบิดระเบ้อ จนวานนี้หุ้นขึ้นมาทำ all time high ที่ระดับ 29.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.40%  ด้วยมูลค่า 478  ล้านบาท แถมเป็นการเทรดบนค่า P/E 170 เท่า “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แต่ขอบอกไว้นิดหนึ่งว่า การไล่ราคาหุ้นก็ควรมีความพอประมาณกันบ้างนะจ๊ะ

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าจับตาในเที่ยวนี้คือ ASAP ปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างแน่นเปรี๊ยะ แรงซื้อไหลมาไม่ขาดสาย แก๊ปหุ้นยังเหลืออีกเยอะ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.70 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่า 60 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองจินตนาการดูว่าการขึ้นมาทำ all time high ในเที่ยวนี้..มันน่าจะมีอะไรที่ทำให้ตัวบริษัทมีแวลูสูงขึ้นจริงไหม? อิอิอิ