จัดกลยุทธ์ลงทุนเดือนก.พ.ชู 2 ธีมเด่นเน้นกลุ่มแบงก์-หุ้นอัพไซด์สูงเกิน 10%

เข้าสู่การลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2561 “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมกลยุทธ์การลงทุนพร้อมปัจจัยที่ต้องจับตาในการลงทุนมานำเสนอ โดยครั้งนี้อาศัยบทวิเคราะห์จาก บล.กสิกรไทย ซึ่งเน้นกลยุทธ์การลงทุนเดือนนี้ไปที่หุ้นกลุ่มธนาคารภายใต้ธีมการลงทุน “Time for bank to get attention” โดยคาดว่าในปี 2561 ตลาดจะยังเกิดสภาพคล่องส่วนเพิ่ม (Liquidity Premium) อย่างต่อเนื่อง 

โดยกระแสเงินที่จะเข้ามาใหม่นั้นจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีมูลค่าไม่แพงและได้ประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะดีที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งก็คือกลุ่มธนาคารฯ Valuation ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ Forward PBV ซื้อขายกันที่ -1SD คาดว่าจะสามารถปรับเพิ่มมากขึ้นเป็น +1SD ตามสภาพคล่องส่วนเพิ่มที่จะเข้ามา

อีกทั้งท่ามกลางความผันผวนทีมากขึ้นของ SET Index โดยคาดดัชนีจะอยู่ในกรอบ 1,817 – 1,837 จุด ให้ทำการขายหุ้น Upside ต่ำ และสลับไปซื้อหุ้น Upside สูง (เกิน 10%) อาทิ AMATA, SSP, STEC, COM7, ROBINS, INTUCH, TISCO, JWD, ADVANC, BBL, SPALI, ORI และ SC

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเช้าวานนี้(31 ม.ค.61) นอกจากการพูดถึงความสำเร็จของนโยบายในปี 2560 ทั้งการสร้างงานใหม่ 2.4 ล้านตำแหน่ง และมาตรการภาษีของสหรัฐแล้ว ยังมีประเด็นสำคัญอื่นๆดังนี้

ประเด็นการค้า ทรัมป์แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวไม่ยอมถูกเอาเปรียบการค้าอีกต่อไป โดยมุ่งมั่นที่จะพลิกกลับมาทำให้การค้าของสหรัฐกลับมาสดใสอีกครั้ง

ด้านการลงทุน ทรัมป์เรียกร้องให้มีการใช้จ่ายในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นวงเงินอย่างน้อย 1.5 ล้านล้านดอลลาร์

ประเด็นคนเข้าเมือง ทรัมป์ต้องการให้มีการปฎิรูปกฎหมายคนเข้าเมือง และเดินหน้าสร้างกำแพงในพื้นที่ชายแดนตอนใต้ของสหรัฐ

คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะตอบรับเชิงบวกต่อการแถลงของทรัมป์ ดัชนีดาวโจนส์มีโอกาสเกิด Technical Rebound ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนเดือน ก.พ. “ได้เวลาธนาคารทะยาน” : โดย KS Research ได้ทำการออกบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนเดือน ก.พ.61 ภายใต้ธีมการลงทุน “Time for bank to get attention” โดยมีเนื้อหาหลักคือ KS Research คาดว่าในปี 2561 ตลาดจะยังเกิดสภาพคล่องส่วนเพิ่ม (Liquidity Premium) อย่างต่อเนื่อง

โดยกระแสเงินที่จะเข้ามาใหม่นั้นจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีมูลค่าไม่แพงและได้ประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะดีที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งก็คือกลุ่มธนาคารฯ Valuation ปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ Forward PBV ซื้อขายกันที่ -1SD คาดว่าจะสามารถปรับเพิ่มมากขึ้นเป็น +1SD ตามสภาพคล่องส่วนเพิ่มที่จะเข้ามา

ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณกับมูลค่าทางบัญชีในปี 2561 จะได้ราคาเป้าหมายจากสภาพคล่องส่วนเพิ่มที่จะเกิดขึ้นดังนี้ BBL มีเป้าหมาย 293 บาท SCB 254 บาท KTB 30.1 บาท BAY 57.1 บาท และ TMB 3.6 บาท ทั้งนี้ภาพรวมโดยเฉลี่ย (ยกเว้น TMB) มี Upside จากราคาเป้าหมายของ KS ประมาณ 20%

ท่ามกลางความผันผวนทีมากขึ้นของ SET Index ยังคงให้ขายหุ้น Upside ต่ำและสลับไปยังหุ้น Upside สูง : ต่อเนื่องจากบทวิเคราะห์ Daily View วานนี้ ซึ่ง KS Research ยังคงคำแนะนำเดิมคือให้ระมัดระวังความผันผวนของตลาดที่มากขึ้น โดยคาดว่า SET Index จะอยู่ในกรอบ 1,817-1,837 จุด ให้ทำการขายหุ้น Upside ต่ำ และสลับไปซื้อหุ้น Upside สูง (เกิน 10%) AMATA SSP STEC COM7 ROBINS INTUCH TISCO JWD ADVANC BBL SPALI ORI SC เป็นต้น

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน