โบรกฯ ดัง เชียร์ซื้อ GIFT วางเป้า 7.25 บ. สะท้อนธุรกิจความงามโตเด่น ดันอัพไซด์พุ่งปรี๊ด!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT ล่าสุด ณ เวลา 14.48 น . อยู่ที่ 5.95 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.85% สูงสุดที่ 6 บาท ต่ำสุดที่ 5.95 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.54 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 7.25 บาทต่อหุ้น อิงค่า PEG Ratio ที่ 1 เท่า จาก Average EPS Growth ในปี 2560-2563 ที่ 22% ต่อปี เทียบค่า EPS ปี 61 ที่ 0.33 บาท (Fully-diluted จากการแปลง GIFT-W1 ทั้งหมดแล้ว)

โดยคาดว่า GIFT มีการเติบโตของกำไรสุทธิที่โดดเด่นในอนาคต จากธุรกิจเครื่องสำอาง Skin Care เป็นหลัก คาดว่าการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจจะทำให้กำไรของ GIFT เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ

ทั้งนี้บริษัทเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางรายได้คาดว่าในปี 2561 บริษัทจะมีรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก คือ (1) Trading เคมีภัณฑ์วัตถุดิบขั้นต้น ในส่วนนี้เป็นส่วนของการนำเข้าวัตถุดิบเคมีภัณฑ์เพื่อจำหน่ายในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางกว่า 70% ของยอดขายส่วน Trading โดยสัดส่วนรายได้ของ Trading นั้นคิดเป็น 95% ของยอดขายรวมของทั้งบริษัท คาดว่าจะมีการเติบโตของธุรกิจนี้ราว 2% ต่อปี

รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ในส่วนของ Cosmetic Base และเครื่องสำอางสำหรับแบรนด์ของลูกค้า ในส่วนนี้คิดเป็นรายได้ราว 3-4% ของรายได้บริษัท และ (3) เครื่องสำอางประเภท Skin Care เน้นธรรมชาติ เริ่มธุรกิจตั้งแต่ ส.ค.60 ภายใต้แบรนด์ของตนเอง ใช้ชื่อแบรนด์ Natural Gift และแยกเป็น Segment ต่างๆ ได้แก่ DE LAMOUR เป็นระดับ Premium สำหรับผู้บริโภคในช่วงอายุตั้งแต่วัยทำงานขึ้นไป, Lady Evil สำหรับวัยรุ่น และ “หมูน้อย” สำหรับเด็กเล็ก

โดยนับจากปี 2561 เป็นต้นไป บริษัทจะเน้นที่ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางเป็นธุรกิจหลัก คาดการณ์ว่าในปี 2563 สัดส่วนรายได้จะเพิ่มเป็น 26% ของรายได้ทั้งหมด และสัดส่วน EBIT จะเป็น 53% ซึ่งธุรกิจเครื่องสำอางนี้เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง แต่มีจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการตลาดสูง เพื่อสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด จึงเป็น Mission ที่สำคัญที่บริษัทต้องดำเนินไปให้บรรลุเป้าหมาย

ส่วนมูลค่าตลาดรวมของเครื่องสำอางประเภท Skin Care ในประเทศไทยอยู่ที่ 70,000-80,000 ล้านบาท เป็นส่วนของผิวหน้า 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่ง GIFT ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 100-300 ล้านบาทต่อปี ในระยะ 2 ปีข้างหน้า โดยคาดว่า GIFT มีศักยภาพในการสร้างอัตรากำไรได้มากกว่าบริษัทอื่น เนื่องมาจากการเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเองอยู่แล้ว

พร้อมทั้งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางในรูปแบบ OEM ให้กับบริษัทอื่นด้วย ซึ่งในส่วนของ OEM เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าธุรกิจ Trading มาก ไม่มีความเสี่ยงที่จะต้องไปทำการตลาดเอง และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ธุรกิจ Trading ของ GIFT ยังสามารถรักษาอัตรากำไรที่ดีและได้ประโยชน์ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดมาก จะเห็นได้ว่า GIFT มีพื้นฐานกิจการที่ดีคอยสนับสนุนธุรกิจใหม่ คือ เครื่องสำอาง ประเภท Skin Care ที่จะเป็นตัวสร้าง New S-Curve ให้กับบริษัท