เศรษฐกิจไทย โตเกินคาด?ขี่พายุ ทะลุฟ้า
อึ้งไปเลยล่ะครับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 จีดีพีเติบโตได้ถึง 3%
อึ้งไปเลยล่ะครับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 จีดีพีเติบโตได้ถึง 3%
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสภาพัฒน์ ควบตำแหน่งรมช.คมนาคม ชมว่าตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นทุกตัว ไม่ว่าการบริโภคของประชาชน การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายในภาครัฐ ยกเว้นก็แต่การส่งออกเท่านั้น ที่ยังติดลบอยู่
ครับ ถ้าจีดีพีโตได้ 3% เป็นตัวเลขจริง ผมก็ว่าอีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว สิ้นปี พนักงานบริษัทห้างร้าน เตรียมรอรับโบนัสก้อนงามกันได้
ตลาดหุ้นก็คงไปโลด หวังดัชนี1,600-1,700 จุดช่วงสิ้นปีกันได้เลย
แต่อารมณ์ความรู้สึกจริงของผู้คน ก็ยังงงๆ อยู่ว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรก โตได้อย่างไร ในเมื่อความจริงที่พานพบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตัวเลขเศรษฐกิจทุกตัว ดูจะหดตัวไปเสียทั้งหมด
ตามสูตรสมการที่ร่ำเรียนกันมา…GDP = C+I+G+(X-M) นั้น C ก็คือการบริโภคของประชาชน, I การลงทุนภาคเอกชน, G คือการใช้จ่ายภาครัฐ และ X-M ก็คือส่งออก-นำเข้า
ตัว X-M ตัวเลขใหญ่ในการคำนวณจีดีพีน่ะฟ้องชัด! จากตัวเลขการส่งออกที่ติดลบมาทั้งไตรมาส
ตัว C มองด้วยตามันก็ซบเซาลงเรื่อยๆ ดูได้ตามร้านอาหารดังๆ ก่อนหน้านี้ หรือตามห้างร้านสรรพสินค้า นอกจากนั้นสภาพัฒน์เองก็ยอมรับตัวเลขราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ รายได้เกษตรกรลดลงถึงร้อยละ 12.6
แล้วกำลังการบริโภคของประชาชน มันจะมาจากไหนกันหา
ตัว I นั้นเล่า มีเอกชนกินดีหมีหัวใจเสือจากไหนมาขยายการลงทุน
ส่วนตัว G นั้น ก็อ้างกันไปว่า สามารถจะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณได้เร็วขึ้นและมากขึ้น แต่ก็ต้องอย่าลืมนะครับว่า นั่นคือการเบิกจ่ายงบประมาณประจำ จำพวกเงินเดือน ค่าน้ำค่าไฟ รวมค่าครุภัณฑ์ทั้งหลาย
งบลงทุนไม่ว่าระบบรางหรือน้ำ ยังไม่มีอะไรขยับเลยแม้แต่โครงการเดียว
รถไฟกี่สายกี่เส้น ว่ากันเป็นเงิน 1-2 ล้านล้าน อันจะทำให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจเดินเต็มกำลังทั้งการจ้างงาน การบริโภค และการลงทุนน่ะ ได้มีการลงมือทำกันสักเส้นไหม
เห็นแต่การขี่ม้าเลียบค่าย เดี๋ยวเรียกเจ้าสัวคนนั้นคนนี้มาคุยแบ่งเค้ก เดี๋ยวก็เรียกจีน เรียกญี่ปุ่นมาเซ็นเอ็มโอยู แล้วได้เห็นวี่แววกันหรือยังล่ะว่า เมื่อไหร่จะได้ตอกเสาเข็มกัน
หากยังขืน “นาโต้” คือ ดีแต่พูด งานไม่ทำกันอยู่อย่างนี้ จีดีพีมันจะเจริญงอกงามออกมา ผมว่ามันก็คงเป็นเรื่องพิลึกชอบกลอยู่ล่ะ
สภาพัฒน์เองก็ยอมรับว่าปรับสูตรการคำนวณจีดีพีใหม่ในรอบไตรมาสนี้
ก็เลยเกิดคำถามตัวโตๆ ว่า หากสภาพัฒน์ไม่ปรับสูตรคำนวณใหม่ จีดีพีไตรมาสนี้จะยังคงเป็นบวกหรือติดลบกันแน่
เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือน ส่งออกก็ติดลบ 4 เดือน ผลผลิตการเกษตรกรตกต่ำ รายได้เกษตรกรหดหาย กำลังซื้อมาได้อย่างไร จึงอดตั้งคำถามกับสภาพัฒน์ อันเป็นหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศมาช้านานไม่ได้ว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 มีความซื่อสัตย์แค่ไหน
หรือจะเป็นเพราะบัดนี้ สถานะ ตำแหน่งของสภาพัฒน์ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว
จากเลขาธิการสภาพัฒน์ มาเป็นรัฐมนตรีควบ ซึ่งจะต้องมีส่วนได้เสียทางการเมือง