แรงซื้อหุ้นพลังงานหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดวานนี้ปรับขึ้น
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดวานนี้ (21 พ.ค.) ที่ 407.87 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,146.70 จุด เพิ่มขึ้น 13.40 จุด หรือ +0.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,864.59 จุด เพิ่มขึ้น 16.12 จุด หรือ +0.14% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,013.47 จุด เพิ่มขึ้น 6.21 จุด หรือ +0.09%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองในเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 5.04 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.24 ล้านยูนิต และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 16 พ.ค. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย แตะ 274,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 271,000 ราย
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพีปรับขึ้น 1.3% และหุ้นทรานส์โอเชียนพุ่งขึ้น 3.5% หลังจากทรานส์โอเชียนสามารถยุติคดีความกับบีพีในกรณีเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกเมื่อปี 2553
ด้านนักลงทุนจับตาดูการเจรจาเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายนิคอส ฟิลีส โฆษกพรรคไซรีซาซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลของกรีซกล่าวว่า กรีซไม่สามารถจ่ายชำระหนี้งวดต่อไปให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ