สังคมข่าวหุ้น
* เข้าสู่เทศกาลประกาศงบกันอย่างเต็มตัว การลงทุนที่ดีสุดช่วงนี้ก็ต้องเล่นไปกับเทรนด์หุ้นผลประกอบการดี โดยขอเริ่มกันด้วยหุ้นแรก IRPC เพราะในช่วงระยะสั้นนอกจากได้แรงหนุนงบปี 2560 ที่ออกมาเติบโตแกร่งเกินคาดกว่า 11,000 ล้านบาทแล้ว แต่ยังได้แรงบวกสำคัญ คือ การประกาศจ่ายเงินปันผลสูงถึง 29 สตางค์ คิดเป็นดิวิเดนยีลด์มากถึง 4% กำหนดแขวน XD ช่วงวันที่ 26 ก.พ.นี้
นิวส์เวฟ
ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ1,792.09 จุด ปรับลดลง 7.94 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 4.9 หมื่นล้านบาท
* เข้าสู่เทศกาลประกาศงบกันอย่างเต็มตัว การลงทุนที่ดีสุดช่วงนี้ก็ต้องเล่นไปกับเทรนด์หุ้นผลประกอบการดี โดยขอเริ่มกันด้วยหุ้นแรก IRPC เพราะในช่วงระยะสั้นนอกจากได้แรงหนุนงบปี 2560 ที่ออกมาเติบโตแกร่งเกินคาดกว่า 11,000 ล้านบาทแล้ว แต่ยังได้แรงบวกสำคัญ คือ การประกาศจ่ายเงินปันผลสูงถึง 29 สตางค์ คิดเป็นดิวิเดนยีลด์มากถึง 4% กำหนดแขวน XD ช่วงวันที่ 26 ก.พ.นี้
* ดังนั้น ช่วงระหว่างทางก่อนแขวน XD จะมีแรงหนุนเก็บหุ้นเพื่อรับปันผลเข้ามาต่อเนื่อง และที่อยากให้โฟกัสก็คือตัวฐานกำไรของ IRPC นี่แหละ เพราะถ้าเรามาลองเจาะลึกลงไปดูกันที่กำไรขั้นต้นจากผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) ซึ่งไม่ได้รวมผลของสต๊อกเกน จะเห็นได้ชัดว่าปัจจุบันมีฐานเกินระดับ 14 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลไปแล้ว นี่ขนาดราคาน้ำมันดิบไม่ได้สูงมหาศาลเหมือนในอดีต แต่ Market GIM ยังทำได้ดีมาก สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบัน IRPC ก้าวผ่านยุคเริ่มต้นสร้างตัวใหม่ มาอยู่ในจุดกอบโกยผลตอบแทนชัดเจน
* แล้วเทรนด์ธุรกิจ IRPC ในปี 2561 ยังคงสดใสไม่เปลี่ยน รวมถึงงบไตรมาสแรกยังมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่างวดปี 2560 เพราะต้นปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ (ตามแผน) แต่ไตรมาสแรกปีนี้จะไม่มีปัจจัยนี้กดดัน เมื่อบวกฐานราคาน้ำมันดิบและราคาผลิตภัณฑ์สายปิโตรเคมีที่อยู่ในเกณฑ์ดี จึงช่วยผลักดันให้งบของ IRPC อยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่อง แล้วถ้าซื้อช่วงนี้ยังได้ปันผลที่มีดิวิเดนด์ยีลด์สูงเกือบ 4% แถมอัพไซด์หุ้นก็ยังเหลือมากระดับ 30% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายล่าสุด 9.60 บาท
* ตัวที่สองที่น่าสนใจขอยกให้กับ AOT ปรากฏว่า ประกาศงบไตรมาสแรก (ต.ค.-ธ.ค. 2560) ออกมาฟาดกำไรไปทะลักกว่า 6 พันล้านบาท ถือเป็นอีกรายที่ทำกำไรดีกว่าที่ภาพรวมตลาดคาดไว้ เป็นผลมาจากฐานผู้โดยสารที่ใช้บริการผ่านสนามบิน 6 แห่ง เพิ่มขึ้นกว่า 34 ล้านคน โตเกิน 12% และในจำนวนนี้เป็นฐานของผู้โดยสารระหว่างประเทศมากเกือบ 20 ล้านคน จึงตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยไม่หยุด
* ส่วนงวดไตรมาส 2 มีโอกาสเติบโตได้ดีเช่นกัน เพราะดูจากฐานตัวเลขที่ AOT ประเมินไว้ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมียอดผู้โดยสารมากเกือบ 6 ล้านคน ทำให้ศักยภาพในการทำรายได้และกำไรอยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง ใครมีหุ้นอยู่แล้วในมือขอให้กอดไว้ให้แน่น เพราะโอกาสที่ราคาหุ้นจะวิ่งไปต่อขานรับพื้นฐานที่เติบโตชนิดรายไตรมาสมีอยู่สูงมาก โดยราคาเป้าหมายโบรกฯ ล่าสุดให้ไว้ถึงระดับ 82 บาท เลยทีเดียว
* หุ้น SQ เมื่อวานดีดตัวขึ้นแรงเกือบ 10% มาปิดฉากอยู่ที่ระดับ 4.72 บาท หากวันนี้มีแรงขายทำกำไรกดราคาหุ้นให้ย่อตัวลงมา ถือว่าน่าสนใจที่จะเข้าสะสมหุ้นติดพอร์ตไว้ เพราะถ้าวัดกันตามเนื้อผ้าแล้ว SQ ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่มีพื้นฐานดีมาก เพียงแต่ว่าในช่วงที่ผ่านมา เจอข่าวลบพลาดคว้างานประมูลโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 ก็เลยโดนแรงขายหนักกดดันให้ราคาหุ้นถอยหลุดต่ำระดับ 5 บาท
* ถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว การพลาดประมูลโครงการถือเป็นเพียงปัจจัยที่กดดันในเชิงเซนติเมนท์เท่านั้นและไม่ได้กระทบต่อตัวพื้นฐาน SQ กันเลย แล้วเมื่อบวกกับแบ็กล็อกในมือที่มีสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท จึงทำให้บันทึกรายได้ยาวนานถึง 9 ปี ดังนั้น ต่อให้พลาดงานประมูลไป แต่ทางบริษัทยังคงรักษาการเติบโตได้ดีไม่เปลี่ยน ที่สำคัญทิศทางงบไตรมาส 4 ยังพลิกกลับมากำไรสวย เพราะไม่มีอุปสรรคเรื่องฟ้าฝนกดดันการทำงาน ซึ่งหากอิงตามที่โบรกฯ คาดไว้จะประกาศกำไรปี 2560 มากกว่า 400 ล้านบาท เท่ากับเพิ่มขึ้นกว่า 30% และงวดปี 2561 จะมีกำไรทะลุ 500 ล้านบาท ด้วยแรงหนุนโครงการแม่เมาะ 8 และโครงการเหมืองหงสา ที่มีปริมาณขุดดินและถ่านหินสูงยิ่งขึ้น ดังนั้น เมื่อข่าวร้ายผ่านพ้นไปแล้ว แพนิกหุ้นจบลง จึงถึงเวลาแล้วที่ควรไปโฟกัสถึงพื้นฐาน SQ ในปัจจุบันและการเติบโตในอนาคตเป็นหลัก
*หุ้นร้อนประจำวัน 14 ก.พ. 2561 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List)และขยายช่วงดำเนินการ คือ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่ 15 ก.พ. 2561-07 มี.ค. 2561