SUN สยายปีกขยายตลาดเต็มสูบ หวังโกยรายได้เข้าเป้า 15% โบรกฯ เคาะเป้าสูงลิ่ว 7.60 บ.

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ของบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN หลังรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2560 ออกมามีกำไรเติบโตขึ้นจากปีก่อน โดยนักวิเคราะห์มีการคาดการณ์ว่า SUN  จะมีศักยภาพในการเติบโตในด้านของรายได้การขายในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปลูกข้าวโพดหวาน ทำให้มีผลผลิตสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยควบคุมต้นทุนให้คงที่

โดยราคาหุ้น SUN ปิดตลาดวานนี้ (20 ก.พ. 61) ที่ระดับ 5.10 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 3.77% สุงสุดที่ระดับ 5.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 34.35 ล้านบาท

ด้านนายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUN เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2561 เติบโตอยู่ที่ระดับ 10-15% จากปีก่อน โดยบริษัทมีแผนเปิดตลาดใหม่ในประเทศแถบตะวันออกกลางเพิ่ม ส่วนในประเทศแถบอาเซียนบริษัทยังคงเน้นประเทศที่บริโภคอาหารฮาลาล เช่น อินโดนีเซ๊ย ฟิลิปปินส์ มาเลเซ๊ย และบรูไน

โดยผลการดำเนินงานประจำปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 1,687.00 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 117.49 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้น (Goss Profit Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.11%

“กำไรทั้งปีของบริษัทดีขึ้นมาจากอัตรากำไรขั้นต้นปี 60 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 19.11% ขณะที่ปี 59 อยู่ที่ 18.61%ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการปลูกข้าวโพดหวาน ส่งผลให้บริษัทมีผลผลิตสม่ำเสมอทั้งปี จึงทำให้ต้นทุนคงที่ (Fixed cost) ลดลง รวมถึงในไตรมาสที่ 2 บริษัทได้ติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จทำให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายก็ลดลงเช่นเดียวกัน” นายองอาจ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2560 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2560 เป็นเงินสด 0.15 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค.2561 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พ.ค.2561 ทั้งนี้ การปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2561 ก่อน

ด้านนักวิเคราะห์ บล. โกลเบล็ก ระบุว่า ขณะนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SUN ในราคาเป้าหมาย 7.60 บาทต่อหุ้น โดยประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 61 จากการอิง Prospect PER ที่ระดับ 20 เท่าซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิ โดยประเมินกำไรต่อหุ้นปี 61 ราว 0.38 บาทคำนวนราคาเหมาะสมได้เท่ากับ 7.60 บาทซึ่งยังมี upside จากราคาปิดล่าสุด คาดการณ์ Yield ปี 61 ที่ราว 3.6%

ทั้งนี้ คาดว่า SUN มีศักยภาพในการเติบโตจากการขายในประเทศเพิ่มขึ้น การปรับส่วนผสมของสินค้าช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นด้วยการเพิ่มการผลิตข้าวโพดหวานแช่แข็งและข้าวโพดหวานบรรจุถุงสุญญากาศให้มากขึ้น และลดสัดส่วนสินค้าข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง การปรับกระบวนการผลิตในการใช้เครื่องจักรมากขึ้นที่ช่วยลดของเสียเมื่อเทียบกับการใช้แรงงาน

รวมทั้งการขยายสู่ตลาดต่างประเทศบุกตลาดญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง รัสเซีย อาเซียนมากขึ้น ด้วยสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ราว 10% ต่อปี และคาดว่าในปี 2561 กำไรจะเติบโตเป็น 164 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตระหว่างปี 60-61 เฉลี่ยราว 21%

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SUN ในราคาเป้าหมาย 7.20 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าในปี 2561-2563 บริษัทจะมียอดขายในประเทศเติบโตอย่างโดดเด่นจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการเพิ่มกำลังการผลิตของ Frozen corn ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่จัดจำหน่ายในประเทศ โดยในปีนี้ คาดว่า SUN จะมียอดขายในประเทศเติบโตก้าวกระโดดที่ 382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศคาดว่ายังคงเติบโตเฉลี่ย 6.31% ต่อปี จากตลาดในโซนเอเชีย เนื่องจากเป็นตลาดหลักของบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 64% โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตประกอบด้วย 1.การรุกขยายตลาดญี่ปุ่นเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นบริโภคข้าวโพดหวานเป็นอันดับ 2 ของโลก และ FTA ไทย-ญี่ปุ่นทำให้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ส่งผลให้ได้เปรียบทางด้านราคา

2.เปิดตลาดประเทศอื่นเพิ่มแถบตะวันออกกลาง 3.การขยายไลน์การผลิตใหม่ของ Frozen corn และ 4.การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับ Partner ต่างประเทศ เช่น อาหารเด็กอ่อนและอาหารผู้สูงอายุ สำหรับประเทศออสเตรเลีย โดยในปี 2561 คาดว่า SUN รายได้จากตลาดต่างประเทศจะอยู่ที่ 1,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนอยู่ที่ 80% ของรายได้ทั้งหมด