วิกฤติล้ม กกต.
สนช.มีมติ “ล้มโต๊ะ” ไม่เห็นชอบว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คน อย่างเซอร์ไพรส์ ทำให้ชาวบ้านด่าขรม นี่จะเลื่อนเลือกตั้งอีกใช่ไหม
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
สนช.มีมติ “ล้มโต๊ะ” ไม่เห็นชอบว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คน อย่างเซอร์ไพรส์ ทำให้ชาวบ้านด่าขรม นี่จะเลื่อนเลือกตั้งอีกใช่ไหม
อันที่จริง ถ้ารีบสรรหา กกต.ใหม่ ดูตามขั้นตอนกฎหมาย ก็ไม่กระทบโรดแมปหรอก แม้มีผลข้างเคียง ก็ไม่ถึงกับมีนัยสำคัญ แต่ประชาชนไม่ไว้วางใจเสียแล้วไง ขนาดท่านผู้นำให้คำมั่น “เลือกตั้ง พ.ย. 61” สนช.ยังเลื่อนได้ นี่ กกต.สรรหากันเองในหมู่ผู้มีอำนาจ ยังตบเท้าล้มหน้าตาเฉย แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไร ว่าไม่มีเลศนัย
มีอย่างที่ไหน วันก่อนหน้านั้น โฆษกกรรมาธิการตรวจสอบประวัติเพิ่งยืนยัน ทั้ง 7 คนไม่มีปัญหา ชาวบ้านก็คิดว่าน่าจะผ่านฉลุยเป็นฝักถั่ว ที่ไหนได้ ฝักถั่วพลิกข้าง อ้างว่าไม่มีประสบการณ์จัดเลือกตั้ง ซึ่งฟังไม่ขึ้น คนหนึ่งเป็นอดีตผู้ว่า 2 คนเป็นผู้พิพากษา (จะมีประสบการณ์ได้ไง) “สเปกมหาเทพ” ยากอยู่แล้วที่จะได้คนมีประสบการณ์ ถ้าอยากเปลี่ยนตัวบุคคลก็ลงมติเฉพาะราย ทำไมต้องเหมาเข่ง
แล้วเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร ไม่ทราบสิครับ แต่มีบทวิเคราะห์ รายงาน ของสื่อหลายสำนัก ชี้ว่าอาจเป็นเพราะการสรรหาว่าที่ กกต. 2 คน โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีปัญหาการตีความ “เปิดเผยแปลว่าอะไร” ที่ลงมติมานั้นใช่การลงมติโดยเปิดเผยหรือไม่ เพราะ กกต.สมชัย ศรีสุทธิยากร ทักท้วงมีเหตุผล แต่เมื่อศาลยืนยันว่าท่านถูก สนช.ก็กระอักกระอ่วนไม่รู้จะท้วงอย่างไร ทีแรกว่าจะปล่อยไป แต่ก็มีใบสั่งให้คว่ำนาทีสุดท้าย เพราะกลัวมีปัญหาภายหลัง ครั้นจะคว่ำแค่ 2 คนก็ไม่ได้ จะถูกมองว่าเจาะจงก็เลยต้องพาลล้มโต๊ะ
“แหล่งข่าวนักกฎหมายระดับสูง” ให้สัมภาษณ์สื่อหลายค่ายพร้อมกัน (ต้นฉบับเดียวกัน ก๊อปแจก สันนิษฐานว่าเป็นคนสำคัญ สื่อจึงให้ความสำคัญ) ออกตัวว่าใช่เรื่องนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดีแล้วละ เดี๋ยวได้เป็น กกต.แล้วจะเสี่ยงถูกร้องเรียนคุณสมบัติ การตีกลับเป็นหนทางดีที่สุด เชื่อว่าเมื่อสรรหาใหม่ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะลงมติ “เปิดเผย” เมื่อถามว่าเป็นการหักหน้าที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาหรือไม่ ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ได้พูดออกมาอย่างเป็นทางการ ว่าเป็นสาเหตุนี้ จริงหรือไม่ก็ไม่รู้
จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ ตลกดีนะ เรื่องใหญ่ระดับชาติ จู่ๆ ลงมติล้มโต๊ะไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่มีเหตุมีผล ประชาชนไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ซึ่งถ้าเป็นจริงอย่างว่า ก็แปลว่ารัฐบาล คสช.แบกหม้อก้นดำ ถูกชาวบ้านรุมด่าด้วยความเข้าใจผิด แต่เมื่อไม่บอกความจริง แล้วจะแก้ตัวอย่างไร ก็สมควรถูกด่าต่อไป ซ้ำเติมขาลง
จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นจริง แม้แปลว่าไม่ได้เจตนาเลื่อนเลือกตั้ง ก็อย่ามองโลกในแง่ดี เพราะมันสะท้อนปัญหาที่ใหญ่กว่า ซึ่งซ่อนอยู่ภายใน นั่นคือวิกฤติเชิงระบบ เมื่ออำนาจขัดกัน
ไม่เห็นจำเป็นเลย ที่ต้องเขียนกฎหมายให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาลงมติเปิดเผย แต่ กรธ.ดันเขียนมา แล้วที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก็ตีความคำว่า “เปิดเผย” ให้งงทั้งประเทศ สนช.ก็ไม่กล้าค้าน ไม่รู้จะเอาไง ตอนแรกจะให้ผ่านแต่เช้าวันลงมติก็สั่งคว่ำ ล้มทั้งกระดาน เผลอๆ จะบานปลายมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันหลายฝ่าย
นี่ถ้าเป็นจริงนะ (จริงไหมไม่รู้ ฮิฮิ) ก็แปลว่าเราอยู่ในระบบที่เละเทะมาก ขนาดทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องโลกาวินาศได้