กำไร บจ.1 ล้านล้าน?
28 ก.พ.นี้ คือวันสุดท้ายที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต้องแจ้งงบการเงินปี 2560 ข้อมูลที่บรรดาโบรกฯ ต่างๆ รวบรวมมานั้น พบว่า สิ้นสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.พ. มี บจ.แจ้งงบการเงินแล้วกว่า 300 บริษัท หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของ บจ.ทั้งหมด
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
28 ก.พ.นี้ คือวันสุดท้ายที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต้องแจ้งงบการเงินปี 2560
ข้อมูลที่บรรดาโบรกฯ ต่างๆ รวบรวมมานั้น พบว่า สิ้นสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.พ. มี บจ.แจ้งงบการเงินแล้วกว่า 300 บริษัท
หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของ บจ.ทั้งหมด
แต่หากคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปก็จะพบแบบนี้ครับ
คือ บจ.ที่แจ้งงบแล้ว จะคิดเป็นมาร์เก็ตแคป รวมกันกว่า 75-80% ของทั้งตลาดฯ
นั่นก็คือบริษัทขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่แจ้งงบการเงินกันออกมาเกือบจะครบแล้ว และที่เหลือจะเป็นบจ.ที่มีขนาดมาร์เก็ตแคปไม่ได้ใหญ่มากนัก
ส่วนกำไรสุทธิรวมกันของบจ.ทุกแห่ง (งบการเงินไตรมาส 4/2560) อยู่ราวๆ 2.10 แสนล้านบาท
หากเทียบกับปี 2559 (ไตรมาส 4/2559) ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.78 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.9%
ดูทรงแบบนี้แล้ว ก็มีโอกาสที่กำไรของ บจ. ไตรมาส 4/2560 จะออกมาดีกว่าคาดการณ์ไว้ (2.20-2.30 แสนล้านบาท)
ในจำนวนกำไรของ บจ.กว่า 2.10 แสนล้านบาท ของช่วงไตรมาส 4/2560 จะแบ่งเป็นกำไรของกลุ่มธนาคารกว่า 4.13 หมื่นล้านบาท และกำไรของ PTT อีกกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท
แค่ของกลุ่มธนาคาร กับ PTT รวมกัน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของกำไร บจ.ที่ทำได้ในไตรมาส 4/2560
กลับมาดูกำไร บจ.ทั้งปี 2560 ที่แจ้งออกมาแล้วกว่า 300 บริษัท
ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่กว่า 8.00 แสนล้านบาท
และหากเทียบกับปี 2559 ตัวเลขกำไร บจ.อยู่ที่ประมาณ 7.40 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.10%
บริษัทที่อยู่ใน SET50 ส่วนใหญ่ แจ้งงบกันออกมาแล้ว และเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 10 บริษัท
ส่วนในกลุ่ม SET100 ก็ยังเหลืออีกหลายบริษัทเช่นกัน
กำไรที่ออกมาจะพบว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์คือกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี
กำไรจะกระจุกตัวอยู่ในสองกลุ่มนี้เป็นหลัก
และรวมถึงกำไรในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีกำไรรวมทั้งปีอยู่ที่ 1.650 แสนล้านบาท (ลดลงจากปี 2559 กว่า 3%)
ล่าสุดหุ้นขนาดใหญ่อีกบริษัทที่แจ้งงบออกมาคือ CPF มีกำไรสุทธิ 1.52 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.66%
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ประเมินว่า หาก บจ.แจ้งงบการเงินปี 2560 กันออกมาครบแล้ว ตัวเลขกำไรรวมกันจะอยู่ประมาณ 9.75 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 2559 กว่า 4.5–5.0%
มีคำถามว่า มีลุ้นไหมที่ตัวเลขกำไรจะถึง 1 ล้านล้านบาทในปีนี้
คำตอบคือ ค่อนข้างยากครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
หลังจากแจ้งงบการเงินปี 2560 แล้วเสร็จ ก็ต้องมาลุ้นเรื่องยอดเงินจ่ายปันผลกันต่อว่า ยอดรวมจะอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่
หลังจาก บจ.ใน SET ปันผลระหว่างกาลออกมาแล้ว 1.17 แสนล้านบาท และบจ. ในตลาดหลักทรัพย์ mai อีกจำนวน 1.17 พันล้านบาท
คาดกันว่า จะมีการปันผลในงวดครึ่งปีหลัง และรวมถึงของ บจ.ที่จ่ายปันผล 1 ปีต่อครั้ง
เม็ดเงินน่าจะอยู่ประมาณ 4 แสนล้านบาท
ครึ่งปีแรก บจ.ที่มีจ่ายเงินปันผลมากสุดคือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH)
ล่าสุด PTT ประกาศจ่ายเงินปันผลออกมาแล้ว 12.00 บาท (ระหว่างกาลจ่ายมาแล้ว 8.00 บาท)
ตัวเลขนี้มากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ซะอีก
และ บจ. ใน mai ที่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) บมจ.บางกอก เดค-คอน (BKD) บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) และ บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW)
จำนวนเงินที่มีการจ่ายปันผลออกมา
คาดกันว่าจะมีเม็ดเงินมากกว่า 30-35% หรือราวๆ 1.50 แสนล้านบาท
กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอีก