ดีเดย์ T+2 เริ่มวันนี้วันแรก
ดีเดย์ T+2 เริ่มวันนี้วันแรก หลังตลท.ปรับรอบระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็น 2 วันทำการ (T+2) จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 วันทำการ (T+3)
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดเผยว่า ตลท.พร้อมปรับรอบระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 วันทำการ (T+3) เป็น 2 วันทำการ (T+2) หลังเตรียมความพร้อมทุกด้านทั้งการปรับปรุงเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง การทดสอบระบบร่วมกันทั้งอุตสาหกรรม (Industry Wide Test) และมีการสื่อสารไปยังผู้ลงทุนให้ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการปรับระบบดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับนานาประเทศ เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันให้แก่ตลาดทุนไทย ตามกรอบกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตลาดทุน ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล นับว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำในอาเซียนที่ใช้ T+2 ให้เป็นไปตามตลาดทุนยุโรปและสหรัฐ
ทั้งนี้จากความร่วมมือของภาคตลาดทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ตลท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทหลักทรัพย์ คัสโตเดียน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และธนาคารพาณิชย์ ที่ทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น ขณะนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมในการปรับรอบระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เป็น 2 วันทำการ (T+2) โดยเริ่มใช้พร้อมกันในวันศุกร์ที่ 2 มี.ค.61
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่า T+2 จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ลดความเสี่ยง และลดต้นทุนของอุตสาหกรรมโดยรวม พร้อมทั้งช่วยให้ผู้ลงทุนบริหารพอร์ตการลงทุนระหว่างประเทศได้สะดวกมากขึ้น” นางเกศรา กล่าว
ลดเวลาจ่ายเงินซื้อขายหุ้น 2 วัน เริ่ม 2 มี.ค. นี้อิงมาตรฐานสากล
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์พร้อมปรับรอบระยะเวลาการชำระราคา และส่งมอบหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 วันทำการ (T+3)เป็น 2 วันทำการ (T+2) โดยเริ่มใช้พร้อมกันในวันศุกร์ที่ 2 มี.ค.นี้ หลังเตรียมความพร้อมทุกด้านทั้งการปรับปรุงเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง การทดสอบระบบร่วมกันทั้งอุตสาหกรรมและมีการสื่อสารไปยังผู้ลงทุนให้ทราบเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับนานาประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันให้แก่ตลาดทุนไทยรวมทั้งยังรองรับการเชื่อมโยงกับพันธมิตรในระดับสากล