GULF มั่นใจพ้น Cash Balance สัปดาห์หน้า ย้ำโรงไฟฟ้าทุกแห่งจ่ายไฟตามแผน
GULF มั่นใจพ้น Cash Balance สัปดาห์หน้า ย้ำโรงไฟฟ้าทุกแห่งจ่ายไฟตามแผน
นายรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผย ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทีวีดิจิตอลช่อง 19 และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ว่า การดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) ใหม่จำนวน 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ (MW) นั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการปิดเงินกู้ สำหรับโรงไฟฟ้า IPP ขนาด 2,500 เมกะวัตต์แรกได้ภายในสิ้นปีนี้ หลังมีสถาบันการเงินให้ความสนใจที่จะปล่อยกู้มากกว่า 5 เท่าของวงเงินกู้ที่ต้องการ
“สำหรับโรงไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ โรงแรกเราได้จัดหาเงินกู้โดยออกจดหมายเชิญชวนธนาคารทั้งไทยและต่างประเทศ ได้พูดคุยกับ ADB ด้วย และทาง JBIC ซึ่งทุกแบงก์ให้ความสนใจ เราได้รับข้อเสนอจากแบงก์พาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ได้รับความสนใจมากกว่า 5 เท่าของเงินกู้โรงไฟฟ้า IPP โรงแรกขนาด 2,500 เมกะวัตต์ เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้จะปิด financing close โรงไฟฟ้าโรงแรกได้อย่างแน่นอน”นายรัฐพล กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าหุ้น GULF จะหลุดการใช้เกณฑ์ Cash Balance ตั้งแต่สัปดาห์หน้า หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ขยายเวลาการใช้เกณฑ์ดังกล่าวกับหุ้นของบริษัทจนถึงวันที่ 9 มี.ค.นี้ เนื่องจากบริษัทมีพื้นฐานมั่นคง และอยู่ในธุรกิจไฟฟ้าที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐ นับเป็น growth stock แม้ P/E ในช่วงแรกอาจจะสูงแต่เชื่อว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยความเสี่ยงของบริษัทไม่เหมือนธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะอยู่ในธุรกิจที่มีสัญญาซื้อขายชัดเจนกับภาครัฐ ขณะที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าและการเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าก็เป็นไปตามแผนงาน โดยไม่เคยสร้างโรงไฟฟ้าใดด้วยราคาที่เกินกว่าต้นทุนงบประมาณของบริษัท ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทมีพื้นฐานที่มั่นคงและอัตราการเติบโตที่จับต้องได้
สำหรับปี 61 บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุนที่ COD แล้ว แบ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP จำนวน 1,400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) จำนวน 760 เมกะวัตต์ หลังเมื่อต้นปีนี้ได้ COD โรงไฟฟ้า SPP ในจ.ระยอง ขนาด 125 เมกะวัตต์ และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. โรงไฟฟ้า SPP ในจ.ปราจีนบุรี ขนาด 126.5 เมกะวัตต์ ได้ COD แล้ว ขณะที่ในเดือนก.ย. และเดือนพ.ย.61 จะ COD โรงไฟฟ้า SPP อีกรวม 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตราว 120 เมกะวัตต์/แห่ง ในจ.พระนครศรีอยุธยา
นอกจากนี้ ในปี 62 จะทยอย COD โรงไฟฟ้า SPP อีก 4 แห่ง ในช่วงเดือน ม.ค., มี.ค., พ.ค. และ ก.ค.ใน จ.ระยอง ,สระบุรี และนครราชสีมา มีกำลังการผลิต ประมาณ 120-130 เมกะวัตต์/แห่ง ส่วนในปี 63 แม้จะไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่ COD แต่บริษัทก็จะยังมีอัตราการเติบโตจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่ COD จำนวน 4 แห่งในปี 62 ได้เต็มปี
ส่วนโรงไฟฟ้า IPP จำนวน 2 แห่ง ขนาด 5,000 เมกะวัตต์ จะแบ่งเป็น โรงไฟฟ้าแห่งแรก ขนาด 2,500 เมกะวัตต์ มีทั้งสิ้น 4 ยูนิต ยูนิตละ 625 เมกะวัตต์ จะทยอย COD ภายในช่วงปี 64-65 และโรงไฟฟ้าแห่งที่สอง ขนาด 2,500 เมกะวัตต์ จะทยอย COD ช่วงปี 66-67 โดยโรงไฟฟ้า IPP ทั้ง 2 แห่งนี้ บริษัทถือสัดส่วนจำนวน 70% คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 3,500 เมกะวัตต์