GCAP ปักธงปีนี้ปล่อยสินเชื่อใหม่1.8 พันล้าน! กางแผนเพิ่มทุน RO ลดหนี้-แตกไลน์ธุรกิจใหม่
GCAP ปักธงปี 61 ปล่อยสินเชื่อใหม่1.8 พันล้าน! เชื่อรายได้-กำไรปีนี้โต! พร้อมกางแผนเพิ่มทุน RO ลดหนี้-ขนงบฯลุยขยายธุรกิจใหม่เพิ่ม
นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2561 โดยคาดว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตจากปี 2560 ที่มีรายได้ 198.60 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27.02 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากภาคการเกษตรปรับตัวดีขึ้นจากปัญหาภัยแล้งไม่รุนแรง ขณะที่บริษัทรุกสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น
โดยในปี 2561 บริษัทจะเน้นการปล่อยสินเชื่อ 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ซึ่งจะให้ความสำคัญไปที่สินเชื่อกลุ่มเจ้าของแผงในตลาด ได้แก่ สินเชื่อสบายใจตลาดคลองเตย ,สินเชื่อสบายใจตลาดปัฐวิกรณ์ ,สินเชื่อสบายใจ อันดามัน และภายในปีนี้บริษัทจะเปิดสินเชื่อสบายใจตลาดไทเพิ่มอีกหนนึ่งแห่ง
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้ 1.80 พันล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 60% จากปีก่อนที่ 1.12 พันล้านบาท โดยสัดส่วนของพอร์ตสินเชื่อจะยังอยู่ระดับเดิม ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อรถเกี่ยวข้าวอยู่ที่ 60% และสินเชื่อส่วนบุคคล อยู่ที่ 40% ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะเปิดบริการใหม่ในตลาดคลองเตย
ขณะที่บริษัทได้มีการปรับระบบการจัดเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และได้เน้นประสิทธิภาพของลูกหนี้ เพื่อที่จะรองรับการขยายตัวของบริษัท และจะช่วยให้คุณภาพสินเชื่อของบริษัทดีขึ้น ส่งผลให้ทิศทางของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงจากสิ้นปีก่อนที่ 3.5% ขณะที่ในปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 3.1%
นอกจากนี้ นายสเปญ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนที่จะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนในช่วงครึ่งหลังปีนี้ โดยจะเป็นการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering: RO) เพื่อระดมทุนใช้ในการขยายงานในธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับการลงทุนแตกไลน์ไปยังธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการลดภาระดอกเบี้ยของบริษัท โดยคาดว่าการเพิ่มทุนดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 5 เท่า
ด้านราคาหุ้น GCAP ปิดตลาดวันนี้ (12 มี.ค.2561) อยู่ที่ระดับ 4.76 บาท ปรับตัวขึ้น 0.04 บาท หรือ 0.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.07 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง 5 วันทำการ นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู๋ที่ระดับ 5.05 บาท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2561
โดยคาดว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในวันนี้สาเหตุมาจากการคลายกังวลผลประกอบการปี 2560 ที่ปรับตัวลดลง 35% จากปี 2559 ที่มีกำไร 41.28 ล้านบาท ขณะที่แผนการเพิ่มทุนในครั้งนี้ส่งผลให้นักลงทุนคลายกังวลประเด็นของ D/E ซึ่งก่อนหน้านี้ถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูง