แบนเงินดิจิทัล?
*จริงๆ วันนี้ “โมนิก้า” ตั้งใจจะเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากเป็นพิเศษ แต่เผอิญเหลือบไปเห็นข่าวแบนเงินดิจิทัลขึ้นมาเสียก่อน จึงต้องเปลี่ยนอารมณ์มาพูดถึงเรื่องนี้เป็นการด่วน เพราะกระแสไม่เอาด้วยกับเรื่องดังกล่าวขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสอันดีที่เดี๊ยนจะใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอีกนิดหน่อยนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*จริงๆ วันนี้ “โมนิก้า” ตั้งใจจะเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากเป็นพิเศษ แต่เผอิญเหลือบไปเห็นข่าวแบนเงินดิจิทัลขึ้นมาเสียก่อน จึงต้องเปลี่ยนอารมณ์มาพูดถึงเรื่องนี้เป็นการด่วน เพราะกระแสไม่เอาด้วยกับเรื่องดังกล่าวขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสอันดีที่เดี๊ยนจะใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอีกนิดหน่อยนะจะบอกให้
*โดยข่าวที่ทำให้ต่อมเผือกทำงานอย่างเร่งด่วนนั้น มาจากกรณีที่ Facebook ออกมาประกาศแบนโฆษณาที่เกี่ยวกับเงินดิจิทัล และการทำ ICO ไปแล้วตั้งแต่ต้นปี ขณะที่โฆษณายักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็ออกมาประกาศแบนโฆษณาที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเป็นรายล่าสุด หลังรับรู้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกำลังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ จึงต้องทำการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมนะคะ
*อีกจุดหนึ่งที่ทำให้เห็นภาพดังกล่าวชัดเจนขึ้นก็คือ คำพูดที่ระบายความในใจของคนที่รับผิดชอบเรื่องการโฆษณาออกมาเม้าท์ว่า “เราไม่มีลูกแก้ววิเศษมาทำนายอนาคตว่าเงินคริปโตจะสร้างอิมแพ็กระดับใด แต่ในตอนนี้เราเห็นตัวอย่างของผู้บริโภคที่เสียหาย หรือมีความเสี่ยงจะเสียหายจากการทำ ICO เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งทำให้เราต้องการส่งคำเตือนไปยังคนเหล่านี้” ยิ่งทำให้เดี๊ยนรู้สึกได้ทันทีว่า ตลาดนี้เกิดยากแล้วพะย่ะค่ะ
*วันนี้ถึงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะกระแสส่วนใหญ่เริ่มไม่เอาด้วยมากขึ้น ถึงแม้ในบางพื้นที่จะพยายามผลักดันให้เกิด แต่กระแสดังกล่าวก็จุดไม่ติดเหมือนที่บางคนคาดหวัง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้มากหน่อย เพราะต่อจากนี้จะมีเรื่องราวชวนปวดหัวเกี่ยวกับเงินดิจิทัลเยอะขึ้น..ใครพลาดท่าเสียทีขึ้นมา ตายหยังเขียดแน่ๆ เจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หากดูกันตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้น “โมนิก้า” มองเห็นคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ล้มเหลว รวมทั้งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนก็มีพัฒนาการในด้านต่างๆ ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งเงินปันผลที่คนถือหุ้นได้รับในแต่ละปีก็มีตั้งแต่ระดับ 2-5% เดี๊ยนถึงเป็นคนแถวหน้าๆ ที่ยกมือสนับสนุนให้คนทุกเพศทุกวัยเข้ามาในตลาดหุ้นไงล่ะคะ
*หากเข้าใจกระบวนการขึ้นลงของตลาดหุ้น ก็จะเข้าใจวิธีการบริหารเงินแบบมีประสิทธิภาพ เขาทำกันแบบไหน? “โมนิก้า” ถึงไม่เห็นแฟนคลับคนไหนตั้งคำถามเรื่องนี้กับเดี๊ยนสักราย เพราะรู้ถึงเหตุผลที่ทำให้ดัชนีขยับขึ้นมาปิดที่ 1,816.08 จุด บวกไป 2.68 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.10 หมื่นล้านบาท มันเป็นไปตามกลไกแรงซื้อขายในตลาดหุ้น ในช่วงที่กำลังรอข่าวดีใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นไงล่ะคะ
*ตัวอย่างเรื่องนี้ดูได้จาก TMB กลายเป็นหุ้นที่ทรุดลงต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนล่าสุดลงมายืนอยู่ที่ 2.78 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท น่าจะเกิดจากเลยช่วงพีกของการทำธุรกิจ แรงซื้อถึงแปรเปลี่ยนเป็นแรงขาย ส่งผลให้คนที่ถือหุ้นก่อนหน้านี้ รีบโยนหุ้นทิ้งก่อนจะเกิดข่าวร้าย ทิศทางของหุ้นเลยดูไม่ดีเอามากๆ และมีสิทธิ์ที่จะอ่อนตัวลงอีกนะจะบอกให้
*ส่วนในรายของ UV ยังคงเป็นทีเด็ดของการเล่นรอบมาแต่ไหนแต่ไร เที่ยวนี้ยังเป็นลักษณะการเข้าทำสั้นๆ แล้วรีบชิ่งออกมาเหมือนเดิม ยิ่งหุ้นมีลักษณะขึ้นแล้วพัก ต่อจากนั้นเริ่มขยับขึ้นใหม่ ยิ่งทำให้ภาพการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ง่ายขึ้นเป็นกอง เพราะมองไปที่ยอดด้านบนบริเวณราคา 11.50 บาทได้ทันที ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่แค่ 10.20 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่า 395 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นเยอะพอสมควรนะจ๊ะ
*สำหรับคนที่ชอบลุ้นเสียวอย่างแรง “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามองหุ้นไก่ TFG เป็นรายถัดมาในทันที หลังหุ้นกระชากขึ้นแรงเป็นวันที่ 2 ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 5.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาท มันเหมือนเป็นเกมดันราคารอบใหม่ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่บริเวณ 5.50 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้พวกขาลุยจับตาการเล่นเที่ยวนี้ให้ดีพะย่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ JKN ดันหุ้นแบบช้าๆ เพื่อรอให้นักเล่นกระโดดขึ้นเต็มขบวนเสียก่อน ต่อจากนั้นก็สาดหุ้นออกมาโครมเดียวแบบง่ายๆ จนหุ้นร่วงลงจากบริเวณ 16 บาท ลงมายืนอยู่ที่บริเวณ 12.90 บาท ก่อนจะดันกลับอย่างช้าๆ อีกครั้ง จนวานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 14.60 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 193 ล้านบาท มันเป็นเกมที่น่าสนไหม? ลองถามใจเธอดูนะคะ