สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 มี.ค. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐและผลกระทบของสงครามการค้า ยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,946.51 จุด เพิ่มขึ้น 72.85 จุด หรือ +0.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,752.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.68 จุด หรือ +0.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,481.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด หรือ +0.00%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสูดในรอบ 14 ปี

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 377.71 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,389.58 จุด เพิ่มขึ้น 44.02 จุด หรือ +0.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,164.14 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.34% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,282.75 จุด เพิ่มขึ้น 15.49 จุด หรือ +0.29%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 เดือน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,164.14 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.34%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) หลังจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสูดในรอบ 14 ปี นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 62.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 66.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ และส่งผลให้สัญญาทองคำปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1312.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 0.9%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.91% ปิดที่ 16.272 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.70 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 950.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.55 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 988.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (16 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี และดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนก.พ.

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2284 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2303 ดอลลาร์ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.3939 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3934 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7712 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7798 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.09 เยน จากระดับ 106.25 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9528 ฟรังก์ จากระดับ 0.9516 ฟรังก์

Back to top button