สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มี.ค. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 2% อย่างไรก็ตาม หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง และได้ฉุดหุ้นโซเชียลมีเดียรายอื่นๆปรับตัวลงด้วย หลังจากรายงานว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) กำลังสอบสวนกรณีการล้วงข้อมูลผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวนมาก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,727.27 จุด เพิ่มขึ้น 116.36 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,716.94 จุด เพิ่มขึ้น 4.02 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,364.30 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.27%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากเงินยูโรและเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 375.57 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,307.33 จุด เพิ่มขึ้น 90.31 จุด หรือ +0.74% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,252.43 จุด เพิ่มขึ้น 29.59 จุด หรือ +0.57% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,061.27 จุด เพิ่มขึ้น 18.34 จุด หรือ +0.26%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของอังกฤษ ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติดีดตัวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,061.27 จุด เพิ่มขึ้น 18.34 จุด หรือ +0.26%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,311.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 16.185 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 945 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 11.50 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 975.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งแนวโน้มที่ว่า เวเนซุเอลาอาจจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันเพื่อเก็งกำไร
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 63.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 67.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงผลการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.44 เยน จากระดับ 105.94 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9553 ฟรังก์ จากระดับ 0.9496 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2255 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2353 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4004 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4043 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7684 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7719 ดอลลาร์สหรัฐ