สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับตัวขึ้น ขานรับยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,682.31 จุด ลดลง 44.96 จุด หรือ -0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,711.93 จุด ลดลง 5.01 จุด หรือ -0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,345.29 จุด ลดลง 19.02 จุด หรือ -0.26%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นยุโรปได้ปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่า หน่วยงานของสหภาพยุโรป (EU) ประกาศจัดเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 374.96 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,239.74 จุด ลดลง 12.69 จุด หรือ -0.24% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,038.97 จุด ลดลง 22.30 จุด หรือ -0.32% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,309.15 จุด เพิ่มขึ้น 1.82 จุด หรือ +0.01%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก รวมทั้งเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ค่าจ้างในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นในเดือนม.ค. ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,038.97 จุด ลดลง 22.30 จุด หรือ -0.32%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กได้ปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,321.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 23.4 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 16.419 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 950.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 10.55 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 986.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 65.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวอยร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังจากที่นักลงทุนได้ซึมซับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมส่งสัญญาณขึ้นปรับดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.12 เยน จากระดับ 106.44 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ  0.9504 ฟรังก์ จากระดับ 0.9553 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2329 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2255 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4136 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4004 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7760 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7684 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button