สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 มี.ค.61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งสูงสุดรอบ 8 เดือน รวมถึงการที่สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์ครั้งที่ 3 ในปีนี้ได้ หลังปธน.ทรัมป์ลงนามร่างงบประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 424.69 จุด หรือ -1.77 ปิดที่ 23,533.20 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในปีนี้ ดัชนี S&P500 ลดลง 55.43 จุด หรือ -2.10% ปิดที่ 2,588.26 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 174.01 จุด หรือ -2.43% ปิดที่ 6,992.67 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.33 จุด หรือ -0.90% ปิดที่ 365.82 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี และร่วงลง 3.2% ตลอดทั้งสัปดาห์

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,886.31 จุด ร่วงลง 213.77 จุด หรือ -1.77% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,095.22 จุด ลดลง 71.99 หรือ -1.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,921.94 จุด ลดลง 30.65 จุด หรือ -0.44%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นสมิทส์ กรุ๊ป กลุ่มบริษัทวิศวกรรมสัญชาติอังกฤษร่วง หลังบริษัทรายงานผลกำไรลดลง

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,921.94 จุด ลดลง 30.65 จุด หรือ 0.44% ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีฟุตซี่ร่วงลงไป 3.4% ถือเป็นสัปดาห์ที่ดัชนีปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) จากความหวังที่ว่าโอเปกอาจจะขยายระยะเวลาลดการผลิตน้ำมัน หลังซาอุดิอาระเบียเสนอให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 65.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดสำหรับสัญญา front-month ในรอบ 8 สัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.54 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 70.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปิดเหนือระดับ 70 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค.

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 22.5 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 1,349.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.พ. หรือในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำพุ่งขึ้น 2.9%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ดีดขึ้น 19.5 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 16.582 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 948.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 10.25 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 971.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวอยร์กเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ขณะที่จีนก็ประกาศมาตรการตอบโต้เช่นกัน

ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2367ดอลลาร์ จากระดับ 1.2306 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.4145 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4109 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7713 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7711 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.84 เยน จากระดับ 105.63 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9467 ฟรังก์ จากระดับ 0.9506 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงแตะ 1.2863 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2915 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button