สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 มี.ค. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,202.60 จุด พุ่งขึ้น 669.40 จุด หรือ +2.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,658.55 จุด เพิ่มขึ้น 70.29 จุด หรือ +2.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,220.54 จุด เพิ่มขึ้น 227.87 จุด หรือ +3.26%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ และได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 363.19 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,787.26 จุด ลดลง 99.05 จุด หรือ -0.83% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,888.69 จุด ลดลง 33.25 จุด หรือ -0.48% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,066.28 จุด ลดลง 28.94 จุด หรือ -0.57%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ หลังจากสหรัฐ และ 14 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ประกาศขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ โดยระบุว่ารัฐบาลรัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับของรัสเซีย นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,888.69 จุด ลดลง 33.25 จุด หรือ -0.48%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 5.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 70.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซีย อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1355.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.2 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 16.684 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 950.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 966.85 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มคลี่คลายลง ภายหลังจากทางการจีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9448 ฟรังก์ จากระดับ 0.9467 ฟรังก์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 105.25 เยน กระดับ 104.84 เยน
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2456 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2367 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4228 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4145 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7713 ดอลลาร์