CPF โอกาสทอง!

นับต่อจากนี้ไป CPF มีเรื่องดีขึ้น...เพราะจะได้ประโยชน์จากราคาสุกรที่ปรับตัวขึ้นและจากการที่จีนเพิ่มกำแพงภาษีนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ  โอกาสจากคำสั่งซื้อไก่จากจีน และบริษัทมีการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้หลากหลายขึ้น


คุณค่าบริษัท

นับต่อจากนี้ไป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มีเรื่องดีขึ้น…เพราะจะได้ประโยชน์จากราคาสุกรที่ปรับตัวขึ้นและจากการที่จีนเพิ่มกำแพงภาษีนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ  โอกาสจากคำสั่งซื้อไก่จากจีน และบริษัทมีการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้หลากหลายขึ้น

ทางด้านราคาสุกรในประเทศเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น จากเดิมที่มีภาวะอุปทานล้นตลาด ซึ่งราคาสุกรปรับตัวขึ้นมาอยู่เกิน 50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. 2561 ส่วนล่าสุดในต้นเดือนเม.ย.อยู่ที่ 58 บาทต่อกิโลกรัม สูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งสูงเกินกว่าราคาต้นทุนหมูที่ประมาณ 54-55 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ผู้ผลิตเริ่มลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากได้ปรับตัวสอดรับกับภาวะอุปทานที่ล้นตลาดในช่วงก่อนหน้า โดยราคาหมูลงไปต่ำสุดที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงปลายเดือน ก.พ. – ต้นเดือน มี.ค.

นอกจากนี้ CPF ยังได้ประโยชน์จากการที่จีนประกาศตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐฯ  จากประเด็นที่ประเทศจีนตอบโตสหรัฐฯด้วยการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯกว่า 128 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อสุกรและผลไม้โดยมีแผนที่จะจัดเก็บในอัตรา 25% คาดว่าจะทำให้จีนต้องนำเข้าหมูจากประเทศไทยและเวียดนามมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหมูปรับตัวดีขึ้น

อีกทั้งจีนเปิดการนำเข้าเนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่ของไทย ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทย ซึ่งไทยมีความได้เปรียบประเทศคู่แข่งอื่นๆ หลายด้าน ทั้งในเรื่องมาตรฐานการผลิตที่อยู่ในระดับสากล มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต ตลอดจนระยะทางที่ใกล้กัน

ทำให้ยอดการส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้น โดยการส่งออกจะผ่านที่ด่านท่าเรือเมืองกวนเหล่ย มณฑลยูนนาน เพื่อส่งสินค้าสู่จีนภาคใต้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การที่ไทยสามารถส่งไก่ได้ในครั้งนี้จะทำให้ราคาไก่สูงขึ้น เพราะหลังผ่านกระบวนการตรวจสอบ จีนมีความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของไทย ทั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนแผนกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากจีนประมาณ 4-6 เดือน

สิ่งสำคัญ CPF ได้เริ่มให้บริการด้านอาหารผู้ป่วยใน ณ โรงพยาบาลสินแพทย์ ถ.รามอินทรา ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารธรรมดา อาหารอ่อน อาหารเหลวใส อาหารเหลวข้น และอาหารสำหรับญาติ-ผู้เฝ้าไข้ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่แยกตามประเภทผู้ป่วย เช่น อาหารหลังคลอด อาหารเด็ก อาหาร Western และอาหารเฉพาะโรคที่จัดทำ Meal Plan ตามคำสั่งแพทย์ การให้บริการดังกล่าวแม้ยังเป็นสัดส่วนที่น้อย แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงกว่าสินค้าปกติ รวมถึงสนับสนุนการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย

ด้วยราคาสุกรเริ่มฟื้นตัวขึ้น คำสั่งซื้อไก่จากจีนอาจเข้ามามากขึ้น และขยายไลน์ธุรกิจอาหารสุขภาพ ผลดังกล่าวจะช่วผลักดันให้ CPF มีรายได้ที่ดีขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงบปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 515,196.94  ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 470,170.20  ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 15,259.32 ล้านบาท หรือ 1.91 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 14,702.82 ล้านบาท หรือ 1.99 บาทต่อหุ้น

บริษัทยังรักษาผลของรายได้และกำไรได้ดี…

ขณะที่ทางด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 29 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด 2,113,315,835 หุ้น 24.54%
  2. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด 785,660,460 หุ้น 9.12%
  3. UBS AG HONG KONG BRANCH 527,257,689 หุ้น 6.12%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 499,134,642 หุ้น 5.80%
  5. UBS AG LONDON BRANCH 341,957,168 หุ้น 3.97%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ
  2. นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร
  3. นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่
  4. นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการ
  5. นายประเสริฐ พุ่งกุมาร รองประธานกรรมการ

Back to top button