ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปตลาดภาคเช้า

ตลาดภาคเช้าปรับตัวลดลง ตามโมเมนตัมลบจากต่างประเทศ ตามทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน โดยกลุ่มที่ปรับตัวลงแรงยังเป็นกลุ่มฺBIG CAP โดยหุ้นพลังงานถูกกดดันด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง และกลุ่มธนาคารยังถูกกดดันด้วยมุมมองเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง -2.90 จุด (-0.19%) มาอยู่ที่ 1,495.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.5 หมื่นล้านบาท

แนวโน้ม ภาคบ่าย

ประเมินดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ มองการรีบาวด์ในภาคเช้าเป็นสัญญานบวกต่อการเก็งกำไร เรามองกลุ่มที่จะมี Catalyst ต่อเนื่องคือกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มเช่าซื้อ โดยเราคาดว่าจะเป็นกลุ่มเด่นในภาคบ่าย สำหรับตลาดเรามองว่าจะมีแรงรีบาวด์ทางเทคนิค อย่างไรก็ดี ด้วยมุมมองของเศรษฐกิจโลกยังซบเซา เราประเมืนว่าจะกดดันราคา Commodiy ในฝั่งของมุมมองด้าน Demand จะสร้างแรงขายกดดันดัชนีในสัปดาห์นี้ ยังคงคำแนะนำ ทยอยสะสมหุ้นที่มีปันผลระดับสูง และได้ประโยชน์จากน้ำมันลง

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

APCS ราคาปิด 3.72 บาท

แนวรับ 3.70 บาท   แนวต้าน 4.00 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 3.62 บาท

กราฟ APCS เคลื่อนไหวตามแนว side way up มาตลอด 4 เดือน แม้มีการเหวี่ยงตัวขึ้นลง บ้างแต่สามารถกลับมาสร้าง high ใหม่ได้ในที่สุด ขณะที่ MACD เริ่มตั้งลำโค้งตัวในที่ต่ำจะส่งผลให้มีแรงเหวี่ยงที่กว้างขึ้น เราคาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นทดสอบ 4 บาท ในเร็วนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไร

 

เด็กแนว

TFD-W3 ความจริงแล้วชอบแม่ TFD แต่ภาวะตลาดที่โวลุ่มน้อยอย่างนี้ การเล่นหุ้นที่ตัวเล็กกว่า และราคาลงมาเยอะแล้วน่าจะมีความเสี่ยงลดลง ประกอบกับอัตราเร่งสูงกว่าแม่ 2 เท่า ดังนั้น หากแม่ขยับเพียงนิด ลูกก็จะสดใสได้ง่าย  ว่าไปแล้วข่าวที่จะบวกล่าสุดก็คือเรื่องการขายที่ดินเร็วกว่าคาด อย่างแรกคือที่ดินนิคมอุตสาหกรรมที่รอการประกาศอย่างเป็นทางการนั้น ตอนนี้มีโอกาสที่จะโอนประมาณ 100 ไร่ราคาเฉลี่ยราวๆ 8 ล้านบาท ต่อไร่ อัตรากำไรไม่น้อยกว่า 50% ถ้าไม่ทัน Q2 ก็ไปทัน Q3  ประการต่อมาที่ดินบริเวณราชดำรินั้นผู้บริหารแจ้งว่าได้มีการสรุปการขายแล้ว  ขึ้นกับว่าจะนัดโอนกันเมื่อไร และน่าจะทันใน Q2 ราคาที่ขายประมาณ 400 ล้านบาทเศษ อัตรากำไรไม่น้อยกว่า 50% เพราะซื้อมานานราคาต่ำมาก ส่วนอีกแห่งคือตึกแฝดซึ่งบริษัทเพิ่งไปประมูลจาก NPLs มาในราคาประมาณ 400 ล้านบาทนั้นตอนนี้ล้มเลิกแผนการนำมา renovate เนื่องจากมีผู้มาติดต่อซื้อยกตึกให้ราคาดีไม่น้อยกว่า 30% ดังนั้น จึงคาดว่าจะจำหน่ายออกไปซะดีกว่าไม่เสียเวลา รับเงินทันที และอาจจะบันทึกเข้า Q2 นี้เช่นกัน  

เห็นแบบนี้ก็หมายความว่ากำไรก่อนภาษีในไตรมาส 2 นี้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทแน่ถ้าไม่ทันก็ไปใส่เต็มๆ ใน Q3 เลย ถือเป็นข่าวดี  ขณะที่เรื่องการร่วมธุรกิจกับ Super+Genco นั้นยังมีดีๆ อะไรอีกเพียบรอดูกันสักพักเด็กแนวว่าราคาหุ้น TFD แม้จะอืดอาดในระยะนี้ แต่ก็ลงติดแนวรับ และกำลังจะวกกลับไปยังแนว uptrend เดิม น่าสะสมถือลงทุน  ใครชอบแม่ก็เอาแม่ แต่บ่ายนี้บังเอิญชอบลูก TFD-W3 ลุ้นต้าน 2-2.20 บาทกันเถอะ

Back to top button