6 หุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนวิ่งคึก! คาดเก็งฯทางเทคนิค-ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากเกินไป

6 หุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนวิ่งคึก! คาดเก็งฯทางเทคนิค-ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากเกินไป นำโดย EA,GULF,BCPG,BGRIM,GPSC และ SPRC


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนเขียวยกแผน นำโดย EA,GULF,BCPG,BGRIM,GPSC และ SPRC คาดเก็งกำไรทางเทคนิคหลังหุ้นปรับตัวลงแรงก่อนหน้านี้ อีกทั้งราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนปรับลงจนมี PE เหลือเฉลี่ย 21 เท่า จากก่อนหน้านี้ที่ 28-35 เท่า เทียบกับกำไรเติบโตของกำไรในระยะ 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ย 25% ถือว่าราคาหุ้นถูกกว่าพื้นฐานมากเกินไป

โดยราคาหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ณ เวลา 34 น. อยู่ที่ระดับ 34 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 3.03% สูงสุดที่ระดับ 35.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.07 พันล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ณ เวลา 16.23 น. อยู่ที่ระดับ 67.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.50% สูงสุดที่ระดับ 68 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 65.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 482.92 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ณ เวลา 16.24 น. อยู่ที่ระดับ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.09% สูงสุดที่ระดับ 19.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 18.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 379.32 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ณ เวลา 16.25 น. อยู่ที่ระดับ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.90% สูงสุดที่ระดับ 27 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 309.68 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ณ เวลา 16.27 น. อยู่ที่ระดับ 76.25 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 4.10% สูงสุดที่ระดับ 76.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 72.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 289.81 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ณ เวลา 16.28 น. อยู่ที่ระดับ 16.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.85% สูงสุดที่ระดับ 16.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 292 ล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เกิด Technical rebound ในกลุ่มโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนอย่าง SPCG, CKP และกลุ่ม Logtistic นำโดย PSL, WICE และกลุ่ม Electronic อย่าง KCE, HANA

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวคิดชะลอการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ในระยะ 5 ปีข้างหน้าทั้งแบบ SPP และ VSPP เพราะกำลังการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันมีเพียงพอกับความต้องการใช้แล้วนั้น ไม่กระทบต่อประมาณการกำไรของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพราะสมมติฐานในการประมาณการกลุ่มนี้ นักวิเคราะห์คำนึงถึงเฉพาะกำลังการผลิตที่ได้รับสัญญาแล้วเท่านั้น ซึ่งพบว่ากำไรในช่วง 1-3 ปีข้างหน้ายังเห็นการเติบโตจากโรงไฟฟ้าที่ทยอยสร้างเสร็จและเริ่มขายไฟ แต่อาจกระทบ Long term growth หากไม่ได้สัญญาใหม่เพิ่ม (หาจากต่างประเทศได้) ทำให้ PE ที่ตลาดเคยให้กับกลุ่มนี้ต้องลดทอนลง

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนปรับลงจนมี PE เหลือเฉลี่ย 21 เท่า จากก่อนหน้านี้ที่ 28-35 เท่า เทียบกับกำไรเติบโตของกำไรในระยะ 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ย 25% ถือว่าราคาหุ้นถูกกว่าพื้นฐานมากเกินไป

Back to top button