เปิดโผ 10 อันดับหุ้น NVDR ฝรั่งดอดเก็บ-ขายทิ้ง ปรับกลยุทธ์รับมือเงินทุนไหลออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากวานนี้ (25 เม.ย.61) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.001% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.171%

ทั้งนี้การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินดีดตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนในการกู้ยืมสูงขึ้น อันจะนำไปสู่การลดการลงทุน และลดการจ้างงาน ขณะเดียวกันอาจทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะซบเซา และถดถอยในที่สุด

โดยประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักวิเคราะห์จากบริษัททาวเวอร์ บริดจ์ แอดไวเซอร์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเป็นปัจจัยผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งหากเฟดปรับอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติไกลกลับเข้าสู่สหรัฐเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลการซื้อขายหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา โดยข้อมูลการซื้อขายรายกลุ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-24 เม.ย.61 แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการขายสุทธิตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-24 เม.ย.61 รวมทั้งสิ้น 72,948 ล้านบาท

ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าว” จึงได้สำรวจและรวบรวมข้อมูลใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สะท้อนการลงทุนของต่างชาติมากที่สุด เพื่อรับมือกับการถูกนักลงทุนต่างชาติที่อาจจะทำการขายสุทธิออกมา

สำหรับ 10 อันดับหุ้นที่ถูกซื้อสุทธิมากที่สุดมีดังนี้

ส่วนหุ้นที่ถูกซื้อมากที่สุดได้แก่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มียอดซื้อสุทธิ 8,592 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 25 เม.ย.61 อยู่ที่ระดับ 97.50 บาท ปรับตัวลดลง 1 บาท หรือ 1.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.30 พันล้านบาท

ขณะที่่อันดับที่ 2 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มียอดซื้อสุทธิ 8,116 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 25 เม.ย.61 อยู่ที่ระดับ 130.50 บาท ปรับตัวลดลง 2.50 บาท หรือ 1.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.34 พันล้านบาท

 

สำหรับ 10 อันดับหุ้นที่ถูกขายสุทธิมากที่สุดมีดังนี้

สำหรับหุ้นที่ NVDR ขายสูงสุดช่วงระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-24 เม.ย.61 ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO มียอดขายสุทธิ 3,039 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 25 เม.ย.61 อยู่ที่ระดับ 227 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 0.44% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 176.35 ล้านบาท

ขณะที่่อันดับที่ 2 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU มียอดขายสุทธิ 2,759 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปิดตลาดล่าสุด ณ วันที่ 25 เม.ย.61 อยู่ที่ระดับ 19.10 บาท ปรับตัวลดลง 0.30 บาท หรือ 1.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 557.37 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บจ.ที่ถูกเทขายออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว อาจจะถูกเทขายได้อีกไม่มาก ขณะที่บจ.ที่ถูกซื้อสะสมไว้มีโอกาสที่จะถูกเทขายภายหลังจากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย และกลุ่มที่คาดว่าจะถูกขายออกเป็นกลุ่มแรกๆคือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากมีผลกระทบโดนตรงในแง่ของอัตราดอกเบี้ย และเศรษฐกิจของประเทศ

 

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน