TPIPL วิ่งแรง 6% รับแผนอัดงบ 2.50 พันลบ.ซื้อหุ้นคืน 5% ดึงความเชื่อมั่น-เพิ่มรีเทิร์นผถห.
TPIPL วิ่งแรง 6% รับแผนอัดงบ 2.50 พันลบ.ซื้อหุ้นคืน 5% ดึงความเชื่อมั่น-เพิ่มรีเทิร์นผถห. ล่าสุด ณ เวลา 10.20 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.86 บาท ปรับตัวขึ้น 0.12 บาท หรือ 6.90% สูงสุดที่ 1.87 บาท ต่ำสุดที่ 1.82 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55.19 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ล่าสุด ณ เวลา 10.20 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.86 บาท ปรับตัวขึ้น 0.12 บาท หรือ 6.90% สูงสุดที่ 1.87 บาท ต่ำสุดที่ 1.82 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55.19 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในวันนี้ หลังจากบริษัท เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 27 เม.ย.61 อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน โดยใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืน 1,009 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.61 ถึงวันที่ 15 ม.ค.62
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้ภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย.61
โดย การซื้อหุ้นคืนดังกล่าว เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท และเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS) โดยบริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและการสร้างรายได้ของบริษัทในอนาคต
สำหรับวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนจะเป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หรือเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป ภายหลัง 6 เดือนนับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 3 ปี
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่า ราคาหุ้น TPIPL ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.61 ซึ่งเป็นวันประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1.26 พันล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนมีกำไรสุทธิ 515 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานในงวดดังกล่าวพลิกขาดทุนเนื่องจากบริษัทบันทึกขาดทุนสุทธิจากผลการดำเนินธุรกิจปกติ 1.10 พันล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 163 ล้านบาท
โดย “ผู้สื่อข่าว” มองว่าการเข้าซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯในครั้งนี้จึงอาจเป็นแผนเรียกความเชื่อมั่นในตัวบริษัทให้กับผู้ถือหุ้น และนักลงทุนเพื่อให้มั่นใจในศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และการสร้างรายได้ในอนาคต