ASAP บวก 4% โบรกฯชี้ VGI ซื้อกิจการ KERRY EXPRESS หนุนธุรกิจรถเช่าพุ่งแนะซื้่อเป้า11.50บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้(3พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 8.70 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 3.57% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.41 ล้านบาท

บล.บัวหลวง ระบุว่า ASAP  หลังจาก VGI ซื้อกิจการ KERRY EXPRESS ในไทยคาดจะหนุนให้ธุรกิจ KERRY EXPRESS เร่งตัวขึ้น หนุนความต้องการเพิ่มจำนวนรถเช่าที่มีกับ ASAP

ทั้งนี้ ASAP พอร์ตรถเช่าระยะยาว ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่กระจายตัวในหลายธุรกิจ เช่น Kerry Express, Tesco Lotus, ไปรษณีย์ไทย, DHL, TNT, TOA, SCG เป็นจุดแข็งบริษัทที่คู่แข่งไม่มี เราคาดจะเติบโตได้เท่าตัว เป็น 2 หมื่นคัน ภายใน 3 ปี หรือ ภายในปี 2020 ด้วยแนวโน้มลูกค้าองค์กร ที่ต้องการ เช่ารถฯ เพราะความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ มากกว่าการ ซื้อขาด                      

การเป็น Partner กับ Online booking agent ชื่อดังในต่างประเทศ เช่น rentalcars.com และ zuzuche.com จะช่วยเพิ่ม Return on Asset ให้มากขึ้น จากการบริหาร รถสำรองที่จอดว่าง มาหารายได้เพิ่ม และในระยะยาวจะเติบโตไปพร้อมกับภาวะการท่องเที่ยวในประเทศ และ อีกช่องทางผ่าน ASAP Go ที่เป็น แอพพลิเคชั่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารรถจอดว่าง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเช่ารถใช้งานได้เป็นรายชั่วโมงหรือรายวันตามที่ต้องการ ผ่าน Application บน Smartphone สะดวกในการรับรถและคืนรถ ซึ่งคาดจะเติบโตไปพร้อมกับ แนวคิด Sharing Economy ที่ประสบความสำเร็จใน จีน และ เกาหลีใต้

คาดอัตรากำไรขั้นต้น จากการขายรถเช่าหมดสัญญา จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ หลังจาก ASAP Auto Park เปิดดำเนินการในช่วง 2Q18 นี้ ซึ่งบริษัทจะมี พื้นที่ ในการขายรถหมดสัญญา และ ให้บริการตรวจสภาพเพิ่มความมั่นใจ แก่ผู้ใช้งานตรง (Retail channel) คาดช่วยให้บริษัทได้มาร์จิ้นที่ดีขึ้น เทียบกับปัจจุบันที่ใช้การขายผ่านลานประมูล หรือ เต้นท์รถ ซึ่งบริษัทจะมีรถที่วางแผนจะปลดระวาง ขายในปี 2018 จำนวน 1,500 คัน และจะเพิ่มเป็น 4,000 คัน ในปี 2021 ตามพอร์ตรถยนต์เช่าที่เติบโตขึ้น เชื่อว่า ASAP Auto park จะไม่ได้หยุดแค่ในกรุงเทพฯ แต่คาดจะเริ่มเปิดในหลายพื้นที่ รวมถึงการซื้อขายบน Platform ออนไลน์แน่นอน ในระยะถัดไป

อนึ่ง ASAP คือผู้ให้บริการรถเช่า กับ Kerry Express ซึ่งเป็นตลาดส่งสินค้าที่คู่แข่งให้บริการรถเช่าไม่มีใครทำ

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  คาด ASAP จะรายงานผลประกอบการ ไตรมาส1/61 ที่ 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลง 23%เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยผลประกอบการที่ลดลงมาจากการบันทึกกลับภาษีในช่วง 4Q17 (ค่าใช้จ่ายในการลงทุนนำมาลดภาษีได้ 100% ในช่วง 5 รอบบัญชี)

คาดผลประกอบการเพิ่มขึ้น 11%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในช่วง ไตรมาส1/61 : เพิ่มขึ้นจากสัญญาเช่าระยะยาวที่เพิ่มขึ้น 1 พันคันใน ไตรมาส 1/61 (หักลบการขายรถออก 700 คัน ส่งผลให้จำนวนรถเช่าระยะยาวอยู่ที่ 1.1 หมื่นคัน) และการขายรถเก่า 1 พันคัน ในขณะที่ การเช่ารถระยะสั้นคงที่ใน ไตรมาส1/61 แต่อัตราการเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 50% (จาก 40% สิ้นปี 2017) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.5% คาดว่าจะคงที่ทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและเทียบไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ SG&A ต่อยอดขายคงที่เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้า

 Asap Auto Park คาดว่าจะเปิดบริการในเดือน ก.ค. 18F : ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 90% ของพื้นที่ในการขาย มีมุมมองในเชิงบวกต่อการดำเนินงานของ ASAP และปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 11.50 บาท (PER ที่ 38 เท่าสำหรับปี 2018F) : คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากอัตราการเช่าระยะสั้นที่เพิ่มขึ้น (คาดถึงจุดคุ้มทุนใน 3Q18F) และราคาขายรถมือ 2 ที่ดีขึ้น (จากการตั้ง asap Auto Park outlet) เราคาดว่าจะมีปริมาณรถเช่าเพิ่มขึ้นสุทธิ 3 พันคันต่อปี และค่าเช่าเพิ่มขึ้นราว 5% ต่อปี และยอดขายรถมือ 2 เพิ่มขึ้น 10%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน