ตามคาด หรือ ผิดคาด

การตัดสินใจของคณะกรรมการ FOMC ของเฟด ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% เป็นไปตามคาด แต่ที่น่าสนใจ คือ ไม่ได้ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงมากนัก นอกจากการอ่อนลงตามสัญญาณทางเทคนิค


พลวัตปี 2018 : วิษณุ โชลิตกุล

การตัดสินใจของคณะกรรมการ FOMC ของเฟด ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% เป็นไปตามคาด แต่ที่น่าสนใจ คือ ไม่ได้ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงมากนัก นอกจากการอ่อนลงตามสัญญาณทางเทคนิค

เบื้องหลังท่าทีดังกล่าวเกิดจากนักตีความเฟดในวอลล์สตรีท ประเมินว่า เฟดได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนที่ชัดเจน หลังจากที่ได้ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และการปรับตัวของเศรษฐกิจได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

คำแถลงทิ้งท้ายของเฟด ระบุว่า คณะกรรมการจะจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ทั้งในแง่ความเป็นจริงและการคาดการณ์ โดยคาดว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะปรับตัวในแนวทางที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะยังคงต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ในระยะยาวต่อไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่แท้จริงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจ ตามข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยต่อจากนี้ มีความหมายที่กำหนดเงื่อนไขยืดหยุ่นชัดเจน

เฟดชี้ว่ายังเน้นจุดยืนด้านนโยบายการเงินที่ยังคงอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาวะตลาดแรงงานให้ปรับตัวดีขึ้นต่อไป และจะช่วยหนุนเงินเฟ้อให้ปรับตัวสู่ระดับ 2% อีกครั้ง

ท่าทียืดหยุ่นของเฟด แม้จะทำให้ฟันด์โฟลว์ในตลาดเอเชียแสดงปฏิกิริยาที่ไปคนละทิศคนละทาง เพราะทุกอย่างเป็นไปตามคาดกันไปหมด

ในตลาดเก็งกำไรนั้น หากเมื่อใดผลการประชุมเฟดเป็นไปตามคาด แรงเหวี่ยงของตลาดอื่น ๆ จะไม่รุนแรงหรือแปรปรวนมากนัก แต่หากเป็นตรงกันข้าม มีผลการประชุมว่าเกินคาด หรือต่ำกว่าคาด (เกินคาดเชิงลบ) จะส่งผลที่รุนแรงกว่า

เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามคาด ความสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็เลยย้อนกลับไปสู่ประเด็นที่เคยเป็น “ภูเขา 3 ลูกตลาดหุ้น” ที่หมายถึง 1) ค่าดอลลาร์เทียบกับเงินสกุลท้องถิ่น 2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯระยะยาว หรือ บอนด์ยีลด์อายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป 3) อัตราการเติบโตกระจุกตัวของเศรษฐกิจไทยเดินมาถึงทางตัน

ในเดือนนี้ สถานการณ์ที่ฟันด์โฟลว์ไหลออกต่อเนื่อง ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็ง ทำให้เงินบาทอ่อนยวบรวดเร็ว เป็นมากกว่าแค่สัญญาณ เพราะได้เริ่มต้น ทำให้การประเมินเมื่อสองเดือนก่อนที่ว่าค่าบาทจะยังแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์ไปจนถึงครึ่งหลังของปีนี้ หรือกลางปีหน้า ใช้ไม่ได้อีกต่อไป

โอกาสที่ค่าบาทจะอ่อนค่าลงเร็วกว่ากำหนด เป็นข่าวร้ายทำให้ราคาหุ้นโดยรวมของตลาดหุ้นไทยมีแนวต้านแข็งแกร่งขึ้น

ส่วนที่ภูเขาลูกที่สองได้เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน และต่อมาต้นปีนี้ เพิ่มความเข้มข้นขึ้น เมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยไปแล้ว กลายเป็นแรงกดดันให้ฟันด์โฟลว์ไหลออกแรงขึ้นต่อเนื่อง

ประเด็นการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) 10 ปี ที่ทำท่าจะฝ่าทะลวงเกิน 3.0% เป็นเรื่องที่นักวางกลยุทธ์การลงทุนได้พากันส่งสัญญาณล่วงหน้ามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพื่อเตือนให้นักลงทุนจับตามาโดยตลอด แล้วเป็นจริงเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

ค่าบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯได้ทะยานขึ้น แล้วส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นไปถือบอนด์หรือพันธบัตร ที่มีราคาต่ำสวนทางบอนด์ยีลด์แทนเพื่อหากำไร จนดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทางลบใหม่ไปแล้ว หลังจากนั้นตลาดหุ้นทั่วโลกก็มีทิศทางขาลงต่อเนื่องชัดเจน

การปรับพอร์ตครั้งใหญ่ของนักลงทุนในตลาดหุ้นจึงมีความหมายและมีความจำเป็นพร้อมกันไป

คำแนะนำของนักวิเคราะห์ที่ให้นักลงทุนหันมาให้ความสำคัญกับหุ้นที่ต่างชาติหรือฟันด์โฟลว์ถือน้อย หรือเล่นหุ้น domestic play ก็เป็นทิศทางลดความเสี่ยงตอบรับกระแสที่เกิดขึ้น ส่วนจะถูกหรือผิด ไม่ชัดเจน

ส่วนภูเขาลูกสุดท้าย ความจำเป็นในทางการคลังเพื่อรับมือกับการที่มีประชากรผู้สูงวัยมากขึ้น  ต้องใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้น ในขณะที่ภาครัฐต้องลงทุนในโครงสร้างขั้นพื้นฐานเพื่อมั่นใจว่าจะสามารถดูดซับภาระจากกำลังแรงงานที่มีขนาดเล็กลงให้สามารถสนองตอบผู้สูงวัย แต่การลงทุนภาครัฐกลับลดลง 1.2% ในปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากความล่าช้าและการเจรจาที่ยังไม่ได้ข้อยุติในการสร้างรถไฟความเร็วสูงในไทย

หลายปีมานี้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้ออกแบบโมเดลเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงกับภาคการท่องเที่ยวสูงมาก (โดยเน้นนักท่องเที่ยวจากจีนด้วยการยกเลิกวีซ่า)  และโปรโมตภาคส่วนนี้หนักมาก เพื่อนำรายได้มาชดเชยกับอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งเท่ากับเพิ่มความสุ่มเสี่ยงมากขึ้น เพราะหากสถานการณ์พลิกผัน ที่พึ่งจะกลายเป็นภาระที่ปลดเปลื้องยาก

ในยามดอกเบี้ยขาขึ้น กลยุทธ์ในช่วงเงินเฟ้อติดลบ หรือดอกเบี้ยต่ำติดพื้น ซึ่งเคยใช้รับมือได้ผล จะต้องเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะ “ตามคาด” หรือ “เกินคาด”

Back to top button