PTTEP วิ่งบวกสวนตลาดฯ หลังยื่นประมูลแหล่งเอราวัณ-บงกชวันนี้
PTTEP วิ่งบวกสวนตลาดฯ หลังยื่นประมูลแหล่งเอราวัณ-บงกชวันนี้ ล่าสุด ณ เวลา 15.12 น. อยู่ที่ 138 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 1.10% สูงสุดที่ 139.50 บาท ต่ำสุดที่ 137 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.10 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ล่าสุด ณ เวลา 15.12 น. อยู่ที่ 138 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 1.10% สูงสุดที่ 139.50 บาท ต่ำสุดที่ 137 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.10 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมลบ 0.47%
ทั้งนี้ ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวขึ้น หลัง PTTEP เข้ายื่นแบบฟอร์มแสดงความจำนงในการเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (Pre-Qualification Evaluation :PQ) เพื่อขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยไทยหมายเลข G1/61 และ G2/61 หรือ แหล่งเอราวัณและบงกช ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66
โดยล่าสุดมีผู้ประกอบการ 3 ราย ประกอบด้วย PTTEP ,บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด มายื่นแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติประมูลทั้ง 2 แหล่งเท่านั้น
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการ 5 ราย ซึ่งนอกเหนือจาก PTTEP ,เชฟรอนฯ และมูบาดาลาฯ แล้ว ยังมีบริษัท Mitsui Oil Exploration Co., Ltd., บริษัท โททาล อี แอนด์ พี ไทยแลนด์ จำกัด ได้เข้ามามารับเอกสารประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจประมูลยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณ และบงกช
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า PTTEP มีโอกาสชนะการประมูลดังกล่าวค่อนข้างสูง
โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า รัฐเปิด TOR แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติที่กำลังจะครบสัญญาสัมปทานเดิม 2 แห่ง คือ แหล่งเอราวัณ ผลิตขั้นต่ำวันละ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็นเวลา 10 ปี จากปัจจุบันผู้ผลิต 3 รายคือ CHEVRON, MITSUI OIL Exploration และ PTTEP ถือหุ้น 71.25%, 23.75% และ 5% ตามลำดับ โดยมี CHEVRON โดยมี PTTEP เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะครบสัญญาสัมปทาน 23 เม.ย. 65)
ส่วนแหล่งบงกช ให้ผลิตขั้นต่ำวันละ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็นเวลา 10 ปี จากผู้ผลิตปัจจุบัน 2 รายคือ PTTEP และ TOTAL ถือหุ้น 66.67% และ 33.33% ตามลำดับ โดยมี PTTEP เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจะครบสัญญาสัมปทานสัญญาแรก 23 เม.ย. 65 และสัญญาที่ 2สิ้นสุด 7 มี.ค.66)
ทั้งนี้คาดว่าผู้ชนะการประมูลรอบใหม่ จะต้องเป็นผู้ที่เสนอประโยชน์ให้แก่ภาครัฐมากที่สุด และน่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเดิมคือ PTTEP ที่มีความพร้อมทั้งเครื่องมือ, บุคลากรและประสบการณ์ที่มีมานานในแหล่งดังกล่าว
โดยหาก PTTEP ชนะการประมูลคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าหุ้นราว 25 บาทต่อหุ้น จะทำให้ มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2561 (อิง DCF)ของหุ้น PTTEP จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 162 บาทต่อหุ้น
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้กรมเชื้อเพลิงฯได้เปิดให้ผู้สนใจเข้ายื่นแบบฟอร์มแสดงความจำนงในการเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (Pre-Qualification Evaluation :PQ) เพื่อขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยไทยหมายเลข G1/61 และ G2/61 หรือ แหล่งเอราวัณและบงกช ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66 ปรากฎว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามีผู้ประกอบการ 3 ราย ประกอบด้วย บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ,บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด มายื่นแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติประมูลทั้ง 2 แหล่ง
ทั้งนี้ เป็นการบ่งชี้ว่าการประมูลครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้ประกอบการสนใจที่จะยื่นประมูลข้ามแหล่ง โดยไม่ได้ยึดติดเฉพาะแหล่งที่เป็นผู้ดำเนินการ (operator) โดยคาดว่าการลงทุนใน 2 แหล่งดังกล่าวภายหลังหมดอายุสัมปทาน คาดว่าจะมีเม็ดเงินรวม 1.2 ล้านล้านบาทในช่วงเวลา 10 ปี ซึ่งจะสร้างรายได้แก่ประเทศราว 2.1 ล้านล้านบาท และสร้างกำไร 9 แสนล้านบาท โดยในส่วนนี้คาดจะเป็นรายได้ของรัฐไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท และที่สำคัญเงื่อนไขการประมูลที่กำหนดกำลังผลิตขั้นต่ำ 10 ปี การให้น้ำหนัก 65% จากการพิจารณาราคาก๊าซธรรมชาติ ที่จะต้องไม่สูงเกินจากราคาปัจจุบัน ยังทำให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานและต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำ ก็จะเป็นผลดีต่อประชาชนด้วย
ทั้งนี้ ตามกำหนดเวลาทุกรายต้องยื่นหลักฐานแสดงคุณสมบัติเบื้องต้นในวันที่ 15-16 พ.ค.61 ,ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นในวันที่ 28 พ.ค.61 และผู้มีคุณสมบัติจัดเตรียมการยื่นข้อเสนอวันที่ 7 มิ.ย.-21 ก.ย.61 และให้ยื่นข้อเสนอการประมูลในวันที่ 25 ก.ย.61 ขณะที่คาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลในเดือน ธ.ค.61 และลงนามในสัญญา เดือน ก.พ.62