พลังดูดสีดำ

ทักษิณ ชินวัตร เย้ยพรรคทหาร ว่าดูดอดีต ส.ส.มากๆ ระวังจะได้คนสีเทาๆ แม้บางคนแซวว่าข้างกายทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ระหว่างเลี้ยงโต๊ะจีน ยังมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กับลูกชาย แต่ถ้าข้างกาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันหน้า มีทั้งเนวิน สมศักดิ์ สุชาติ ตระกูลคุณปลื้ม สะสมทรัพย์ ฯลฯ ก็ไม่รู้จะหัวเราะเป็นภาษาอะไร


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ทักษิณ ชินวัตร เย้ยพรรคทหาร ว่าดูดอดีต ส.ส.มากๆ ระวังจะได้คนสีเทาๆ แม้บางคนแซวว่าข้างกายทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ระหว่างเลี้ยงโต๊ะจีน ยังมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กับลูกชาย แต่ถ้าข้างกาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันหน้า มีทั้งเนวิน สมศักดิ์ สุชาติ ตระกูลคุณปลื้ม สะสมทรัพย์ ฯลฯ ก็ไม่รู้จะหัวเราะเป็นภาษาอะไร

พวกอยากปฏิรูปก่อนเลือกตั้งคงเสร็จสมอารมณ์หมาย ปฏิรูปจนได้นักการเมืองน้ำดี

เสียงส่วนใหญ่ในดุสิตโพลอาจมองการดูด ส.ส.เป็นเรื่องปกติ อาจใช่ ถ้าเป็นการเลือกตั้งที่แข่งขันกันแฟร์ๆ ในระบอบประชาธิปไตย แต่นี่ใครเป็นผู้กำหนดกฎกติกา ใครมีอำนาจล้นฟ้า ม.44 แทนที่จะวางตัวเป็นกลาง กลับตั้งพรรคการเมืองดูดอดีต ส.ส.มาลงเลือกตั้ง

ซ้ำยังเลี่ยงบาลี รัฐธรรมนูญกำหนดว่าถ้ารัฐมนตรีจะลงเล่นการเมืองด้วยการสมัคร ส.ส.ต้องลาออกใน 90 วัน กลับไม่ลาออก จะเล่นการเมืองด้วยการเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แล้วดูดคนของพรรคอื่นมาสมัคร ส.ส.

ตลอดทั้งสัปดาห์ สังคมได้เห็นวาทกรรม ที่ตะแบงเอาดื้อๆ ว่าการดูดเป็นครรลองประชาธิปไตย ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนให้ “ฉันเปล่านา เขามาเอง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยังโชว์ฟอร์มเหนือนักการเมือง ไล่ให้เอาเวลาไปคิดนโยบายดีกว่าจ้องด่าเรื่องดูดไร้สาระ

ดาหน้าผลิตวาทกรรมเพื่อบิดความไม่ชอบธรรมให้เป็นความชอบธรรมซะงั้น

แบบเดียวกับการตำหนิบางพรรคการเมือง ว่าฉวยโอกาสหาเสียง เอาเปรียบคนอื่น แต่ใครเอ่ย จะไปบุรีรัมย์ ที่นักการเมืองระดมชาวบ้านมาตั้งแถวต้อนรับมากกว่าสามหมื่นคน นี่ไม่เอาเปรียบใครใช่ไหม

ย้อนไป 6 เดือนที่แล้ว ตอนที่ตั้ง 6 คำถาม อยากเห็นพรรคการเมืองใหม่ นักการเมืองใหม่ ที่มีคุณภาพ มาปฏิรูปประเทศไทยหรือเปล่า ว่าที่จริงฟังแล้วก็หนาวๆ กลัวจะมีการตั้งพรรคการเมือง โดยระดมขุนพลคนมีคุณภาพที่อยู่รายล้อมรัฐบาล อาทิเช่น เทคโนแครต นักธุรกิจ ข้าราชการ ทหารเกษียณ มาตั้งพรรคใหม่ อาศัยบัตรคนจน ประชารัฐ ไทยนิยม ที่ กอ.รมน.คุยว่าจะลงพื้นที่พบประชาชนนับสิบล้านคน เป็นฐานคะแนน ฟังแล้วน่ากลัวนะ เพราะคนชั้นกลางในเมืองที่หนุน คสช.คงแซ่ซ้อง เผลอๆ จะแห่บริจาคเงินสมทบทุนเหมือนสมัยลุงกำนัน

ที่ไหนได้ กลายเป็นมาดูดอดีต ส.ส.ชื่อเสียงคับแก้วทั้งนั้น เห็นแล้วหัวร่อลั่นเลย

มันไม่ใช่แค่ดูดคนสีเทาเข้าไป แต่ดูดไปอยู่ภายใต้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ที่อยู่เหนือกลไกรัฐ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้คุณให้โทษนักการเมืองได้ ในภาพรวม มันเป็นพลังดูดสีดำด้วยซ้ำไป

วิถีทางที่ทำกันดื้อๆ นี้ อาจเป็นได้ว่าจะประสบความสำเร็จ ในสังคมก้มหน้า ทำเป็นไม่เห็นความไม่ชอบธรรม ตัวใครตัวมัน ขอเพียงได้ทำมาหากิน เพราะสิ่งที่ผู้มีอำนาจใช้ขู่ คือความกลัวไม่สงบ วุ่นวาย เมื่อมืดมนไม่รู้จะไปทางไหน สังคมไทยก็ต้องกอดจูบขาทหารไว้ก่อน

แต่มองอีกมุม ถ้าลากถูกันไม่รอด ก็ยิ่งนำไปสู่ความตกต่ำ คิดอีกที การที่ผู้มีอำนาจเลือกวิถีทางนี้ ทั้งที่คงไม่อยากทำ เป็นเพราะพวกท่าน “เข้าตาจน” ไม่มีทางลง ไม่รู้จะสืบทอดอำนาจอย่างไร จึงต้องเลือกวิถีที่อุจาดที่สุด แม้แต่ตัวเองก็กลั้นใจ

มุมนี้น่าคิด ถ้าดูท่าไปไม่รอด คสช.จะทำอย่างไร กองทัพจะทำอย่างไร

Back to top button