สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 8 พ.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ต่ออิหร่าน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,360.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด หรือ +0.01% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,671.92 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,266.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด หรือ +0.02%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับจุดยืนที่มีต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ทาเคดา ฟาร์มาซูติคัล บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทไชร์
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,912.21 จุด ลดลง 35.93 จุด หรือ -0.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,521.93 จุด ลดลง 9.49 จุด หรือ -0.17% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,565.75 จุด ลดลง 1.39 จุด หรือ -0.02%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 390.00 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับจุดยืนที่มีต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ทาเคดา ฟาร์มาซูติคัล บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทไชร์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,565.75 จุด ลดลง 1.39 จุด หรือ -0.02%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวก ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,313.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.3 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 16.472 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 912.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 963.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมประกาศคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ แต่ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุช่วงเวลาการคว่ำบาตรที่ชัดเจน และไม่ได้ระบุขนาดความรุนแรงของการใช้มาตรการคว่ำบาตรเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2.4% ปิดที่ 69.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 74.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ปรับตัวขึ้นในเดือนมี.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ แม้ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านก็ตาม
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1860 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1924 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3538 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3560 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7449 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7518 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.98 เยน จากระดับ 109.08 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0018 ฟรังก์ จากระดับ 1.0028 ฟรังก์