ตั้งไข่ (อีกรอบ)

*ทันทีที่ “โมนิก้า” เห็นผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทจดทะเบียนอันเป็นที่รักทั้งหลายแหล่โชว์กำไรลดฮวบฮาบ หัวใจดวงน้อย ๆ ก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเกิดอาการหัวใจสั่นรัว ขาแข้งไม่มีแรงเอาดื้อ ๆ ก่อนจะอุทานเสียงหลงออกมาเป็นภาษาอังกฤษว่า Oh My God! เพราะหุ้นที่แมงลือ และพรายกระซิบ เม้าท์ให้ฟังว่า ดีนักดีหนาก่อนหน้านี้ ผลงานไม่เอาอ่าวเลยสักเจ้านะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ทันทีที่ “โมนิก้า” เห็นผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทจดทะเบียนอันเป็นที่รักทั้งหลายแหล่โชว์กำไรลดฮวบฮาบ หัวใจดวงน้อย ๆ ก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเกิดอาการหัวใจสั่นรัว ขาแข้งไม่มีแรงเอาดื้อ ๆ ก่อนจะอุทานเสียงหลงออกมาเป็นภาษาอังกฤษว่า Oh My God! เพราะหุ้นที่แมงลือ และพรายกระซิบ เม้าท์ให้ฟังว่า ดีนักดีหนาก่อนหน้านี้ ผลงานไม่เอาอ่าวเลยสักเจ้านะคะ

*เมื่อสถานการณ์ออกมาในโทนโงหัวไม่ขึ้นค่อนข้างชัดเจน ก็ทำให้บรรดานักเล่นพากันสาดหุ้นทิ้งอย่างไม่ดูดำดูดี จนดัชนีรูดลงมากองอยู่ที่ระดับ 1,756.90 จุด ลบไป 3.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.94 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการหวั่นใจขึ้นมาในทันทีว่า แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาจุดแรกบริเวณ 1,750 จุดจะเอาอยู่หรือเปล่า ? เพราะไม่มีตัวแปรไหนหนุนให้ถือหุ้นต่อไปน่ะซี

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” คิดต่อไปอีกขั้นว่า หากดัชนีหลุดแนวรับดังกล่าวลงมาจริง ๆ แนวรับสำคัญถัดมาที่บริเวณ 1,720 จุด ยังจะสามารถเอาอยู่ไหม ? ซึ่งเป็นเรื่องราวที่อยากให้แฟนคลับทำตัวให้กลมกลืนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แถมเวลานี้ตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีอะไรที่จะแจ้งแดงแจ๋ จึงไม่สามารถฝากความหวังอะไรได้ทั้งสิ้น (ช่วงสั้น ๆ) สภาพของตลาดหุ้นถึงมีแต่ทรงกับทรุดไงล่ะคะ

*ขนาดหุ้นทีเด็ดอย่าง ADVANC ก็ยังโดนเทขายอย่างหนักหน่วง 2 วันติด ๆ จนราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 195 บาท ลบไป 9 บาท หรือลงไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.87 พันล้านบาท เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณการปรับพอร์ตใหญ่ของนักลงทุนสถาบันได้เกิดขึ้นแล้ว บวกกับผลงานในช่วงหลังไม่โดดเด่นเหมือนที่ผ่านมา จึงต้องโฟกัสไปที่แนวรับสุดท้ายตรงเส้น 200 วัน บริเวณ 192 บาทจะแข็งแกร่งเพียงใด ?..หากเอาไม่อยู่ จบไม่สวยแน่ ๆ เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BEAUTY ก่อนหน้านี้ถูกรินเทขายออกมาเรื่อย ๆ จนวานนี้โดนทุบหนักอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ส่งผลให้หุ้นรูดลงมากองอยู่ที่ 21.50             บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.51 พันล้านบาท “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง 2 ประเด็นหลัก ๆ คือ “โดนลดพอร์ต” กับ “งบไม่สวย” ส่วนจะเป็นเรื่องไหน ? ต้องติดตามดูกันเอาเอง หรือบางทีอาจเกี่ยวกับ เฮีย ล. ก็ได้ ลองเช็กกันดู..อิอิอิ

*ส่วนในรายของรถแก๊สพลิกคว่ำ SGP สร้างความผิดหวังให้กับมหาชนไม่ใช่น้อย เพราะกำไรลดลงเหลือแค่ระดับ 100 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำกำไรในระดับ 1,000 ล้านบาท บรรดาพ่อยกแม่ยกเลยขอลาปลีกวิเวกกันเป็นแถว หุ้นถึงทรุดตัวลงมายืนปิดที่ 24.60 บาท ลบไป 2.65 บาท หรือลงไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.31 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ต้องเร่งทำผลงานในไตรมาส 2 แล้วทุกอย่างจะออกมาดีดังเดิมเจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของสองแม่ลูก THRE กับ THREL ออกอาการย่ำแย่ชนิดกู่ไม่กลับในเที่ยวนี้ ก็มาจากประเด็นขาดทุนมหาศาลเป็นเรื่องหลักอีกเช่นกัน สภาพของหุ้นถึงดูยับเยินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยตัวแม่โดนสาดลงมายืนปิดที่ 1.38 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลงไป 6.10% ส่วนตัวลูกโดนกดลงมายืนอยู่ที่ 8.70 บาท ลบไป 1.05 บาท หรือลงไป 10.80% จึงกลายเป็นหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นการชั่วคราวนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับย้อนกลับไปดูทรงหุ้นก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ? ต่อจากนั้นนำมาประมวลผลว่า ยังน่าสนใจจริงไหม ? พะย่ะค่ะ

*เหมือนกับทิศทางการไหลลงของหุ้น ICHI ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ? วันนี้มีอาการหนักกว่าเดิมหลายเท่า เพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลงานต่อจากนี้อาจขาดทุน จึงพากันเทขายหุ้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนราคาหุ้นทำ all time low นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเมื่อ 27 เม.ย. 2557 ที่ราคาไอพีโอ 13 บาทด้วยการปิดที่ระดับ 7.50 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไปอีก 3.85% แบบนี้..อย่าเข้าไปยุ่งเป็นการดีที่สุดเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AMA ก่อนหน้านี้ประโคมข่าวใหญ่โตด้วยการเพิ่มกองเรือ พร้อมกับจุดประกายความหวังของเหล่านักเล่นด้วยการออกข่าวผลงานจะเลิศแบบนั้น ..เลิศแบบนี้ พอประกาศออกมาจริง ๆ กลายเป็นกำไรหด 95% พร้อมกับฉุดราคาหุ้นลงมาปิดที่ 8.70 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 12.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41 ล้านบาท แถมเป็นการปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเมื่อ 22 ธ.ค. 2559 เท่ากับย้ำว่า ไม่ควรเฉียดใกล้นะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่น่ากังวลในเที่ยวนี้กลายเป็น AIT ประกาศกำไรลดลงเกินครึ่งหนึ่ง ทำให้สถานการณ์ของหุ้นแย่ลงในทันที เพราะแรงเทขายไหลออกมาไม่ได้หยุดหย่อน จนราคาหุ้นทรุดลงมาปิดที่ 25.50              บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 5.55% มันทำให้การเข้าช้อนหุ้นต่อจากนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องคิดหนักกว่าเดิมว่า การเข้าเล่นเที่ยวนี้คุ้มค่ากับผลตอบแทนหรือเปล่าน่ะซี!

*คล้ายกับกรณีของ III อุตส่าห์ฟอร์มตัวดีมาระยะหนึ่ง พอเอาเข้าจริงกลับไม่เป็นโล้เป็นพาย สร้างความผิดหวังให้กับพวกกองเชียร์ ราคาหุ้นก็เลยทรุดลงมายืนอยู่ที่ 5.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 17.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 84 ล้านบาท พร้อมกับทำ new low นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น จนนักเล่นหน้าเก่าเกิดอาการแหยงขึ้นมาในทันทีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการหลบเข้าข้างทางชั่วคราว เพราะมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะเข้าไปช้อนเจ้าค่ะ

Back to top button