สังคมข่าวหุ้น

นิวส์เวฟ

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,756.90 จุด ปรับลดลง 3.35 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5.9 หมื่นล้านบาท

* เมื่อวานนี้กลายเป็นกลุ่มหุ้นจากฝั่ง SET100 หลายตัวที่มีแรงขายกระจายออกมาเป็นจำนวนมากผสมกับหุ้นบลูชิพกลุ่มสื่อสารและธนาคาร เลยกดดันให้ SET ออกอาการเป๋จนปิดลบกันไปอีกวัน ยังดีที่หุ้นพลังงาน (โดยรวม) รีบาวด์กลับมาทันเลยส่งผลให้ SET ปิดลบไปเพียงแค่ 3.35 จุดเท่านั้น โดยรายย่อยเดินหน้าเข้าซื้อสุทธิแรง 2,718 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 256 ล้านบาท ส่วนขาเทขายต่างชาติสาดออก 1,839 ล้านบาท และสถาบัน 1,136 ล้านบาท

* จากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยที่ถอยลงต่อเนื่องในช่วงนี้ นิวส์เวฟจึงมองว่า ขณะนี้หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีพื้นฐานดี (เฉพาะตัว) น่าจะเหมาะสมต่อการลงทุนมากกว่าหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ ที่ยังอยู่ในอาการผันผวนหนัก (แบบชนิดรายวัน) เริ่มด้วยหุ้นแรกให้ความสนใจกับหุ้น TKS ซึ่งตุนปัจจัยบวกช่วยหนุนหุ้น โดยเรื่องแรกคงเป็นงบของบริษัท SYNEX (TKS ถือหุ้นเกือบ 39%) ทำกำไรออกมาโตเด่นทะลุ 200 ล้านบาท และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ TKS ได้รับเซนติเมนท์บวกตรงนี้เข้ามาช่วยหนุนหุ้นด้วยเช่นกัน

* อีกปัจจัย คือ กรณีการเข้าไปทำเทนเดอร์ TBSP ซึ่งปัจจุบันปิดฉากสิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และส่งผลให้กวาดสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มขึ้นระดับ 77% ซึ่งดีลนี้จบลงประมาณช่วงเดือน เม.ย. และผลบวกจากการเข้าถือหุ้นเพิ่มจะสะท้อนออกมาสู่งบ TKS ในไตรมาส 2 อย่างมีนัยสำคัญ จึงถือเป็นหุ้นที่พื้นฐานดีไม่เบา และขอฝากไว้ให้นักลงทุนได้ลองพิจารณา

* หุ้น ATP30 เป็นหุ้นไซส์มินิแต่พื้นฐานใหญ่เกินตัวอย่างมาก งวดไตรมาสแรกฟาดกำไรโตนิวไฮกว่า 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกระฉูดกว่า 400% ด้วยแรงหนุนของฐานลูกค้าที่ยังคงใช้บริการขนส่งพนักงานอย่างหนาแน่น และยังมีโอกาสโกยยอดขายเพิ่มต่อเนื่องอีกในอนาคต ฟากนักวิเคราะห์เองล่าสุด ให้คำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 2.30 บาท ทำให้ยิ่งมีอัพไซด์หุ้นเพียบ เพราะราคาปิดในกระดานเมื่อวานจบอยู่แค่ 1.81 บาท

* ส่วนในเชิงระยะยาวถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่เล่นไปกับประเด็นบวกชิ้นใหญ่เรื่อง EEC ที่ภาครัฐกำลังเดินหน้าผลักดันในปัจจุบัน ดังนั้น ประเด็น EEC จึงไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลบวกเท่านั้น แต่ทาง ATP30 จะได้รับผลดีด้วยเหมือนกัน เพราะฐานลูกค้ารายใหญ่ที่ ATP30 มีอยู่ในมือ ล้วนมีแผนขยายการลงทุนในพื้นที่ EEC กันทั้งสิ้น จึงทำให้บริษัทมีโอกาสได้งานเพิ่มขึ้นในอนาคต

* หุ้น BEAUTY เมื่อวานเจอแรงสาดขายออกมาเยอะมาก จนกดดันให้ราคาหุ้นปิดลบแรงที่ 21.50 บาท ลดลงไปกว่า 4% เท่ากับตลอด 5 วันทำการล่าสุด หุ้นปิดลบแล้วกว่า 8% วันนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ราคาหุ้นน่าจะกลับมารีบาวด์ได้ เพราะหุ้นถอยลงไปลึกมากแล้ว

* แน่นอนว่า ในเชิงพื้นฐานไม่เถียงว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งจริง สามารถรักษาการเติบโตได้ในทุกภาวะเศรษฐกิจ และภายในเร็ว ๆ นี้ยังมีลุ้นติดเข้า MSCI Global Standard แต่เนื่องจากบริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นทั้งกองทุน-ต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก และจากการปิดสมุดทะเบียนล่าสุด มีผู้ลงทุนสัญชาติไทยถือครองประมาณ 2,400 ล้านหุ้น และต่างชาติอยู่ประมาณกว่า 500 ล้านหุ้น ดังนั้น จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ที่แรงขายกองทุนและต่างชาติยังมีเยอะตลอด ทำให้กระแส Take profit หุ้น BEAUTY ในครั้งนี้อาจยังไม่จบสิ้น จึงขอให้คนที่จะเข้าช้อนเก็บหุ้นใช้ความระมัดระวังด้วย

* ปิดท้ายด้วยหุ้น EGCO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาสแรกท่วมท้นกว่า 2 หมื่นล้านบาท โตขึ้นแบบมหาศาลจากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจากการฟันกำไรขายเงินลงทุนสูง 1.4 หมื่นล้านบาท วันนี้หุ้นน่าจะวิ่งรับข่าวเรื่องงบเป็นอย่างดี และถือเป็นหุ้นไฟฟ้าที่ยังมีปัจจัยบวกในมือไม่เบาเช่นกัน หากใครมีหุ้นอยู่ในมือแล้วขอให้สบายใจได้เลย