สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 10 พ.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิลและเฟซบุ๊ก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,739.53 จุด เพิ่มขึ้น 196.99 จุด หรือ +0.80% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,723.07 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.94% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,404.97 จุด เพิ่มขึ้น 65.07 จุด หรือ +0.89%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาสถานการณ์การเมืองในอิตาลี
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,022.87 จุด เพิ่มขึ้น 79.81 จุด, +0.62% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,545.95 จุด เพิ่มขึ้น 11.32 จุด, +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.45 จุด, +0.50%
ส่วนดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 391.97 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ โดยสกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.45 จุด หรือ +0.50%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวการยิงสู้รบกันระหว่างกองทัพอิสราเอลและกองทัพอิหร่านซึ่งมีฐานอยู่ในซีเรีย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐซึ่งต่างก็ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 71.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 77.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งขึ้นปรับอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,322.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 16.759 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ 925.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 23.30 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 993.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่เร่งขึ้นปรับอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.37 เยน จากระดับ 109.71 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0022 ฟรังก์ จากระดับ 1.0048 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1926 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1861 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3520 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3556 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7538 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7464 ดอลลาร์สหรัฐ