ตะลุยซื้อ(ต่อไป)โมนิก้าและทีมงาน
*ถ้านักลงทุนเข้าใจมูฟเม้นท์การเคลื่อนตัวของดัชนีอย่างทะลุปรุโปร่ง คงไม่แปลกใจกับการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,496.05 จุด บวกไป 2.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.97 หมื่นล้านบาท เพราะมันแสดงให้เห็นว่า การแกว่งตัวไปมาของดัชนีเป็นแค่การแกว่งตัวไปมาตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และยังโยงไปถึงเรื่อง “แรงซื้อ” หรือ “แรงขาย” ที่เห็นกันจนชินตาพะยะค่ะ
*ถ้านักลงทุนเข้าใจมูฟเม้นท์การเคลื่อนตัวของดัชนีอย่างทะลุปรุโปร่ง คงไม่แปลกใจกับการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,496.05 จุด บวกไป 2.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.97 หมื่นล้านบาท เพราะมันแสดงให้เห็นว่า การแกว่งตัวไปมาของดัชนีเป็นแค่การแกว่งตัวไปมาตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และยังโยงไปถึงเรื่อง “แรงซื้อ” หรือ “แรงขาย” ที่เห็นกันจนชินตาพะยะค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่ได้สนใจการเทขายของปอบผีฟ้า และฝรั่งตาน้ำข้าว จะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน เพราะข้อมูลทางสถิติบอกให้ทุกคนรู้ว่า การถือครองหุ้นของฝรั่งหัวทองต่ำสุดเท่าที่เคยมีมาในรอบหลายปีจึงเชื่อว่า ในไม่ช้ากลุ่มฝรั่งหัวทองจะกลับมาซื้อในเร็วๆ นี้ เพราะมันไม่มีเหตุที่ทำให้ต้องทิ้งหุ้นต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด โดยกองทุนเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ดีสุดนะจะบอกให้
*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่กองทุนเดินหน้าเก็บหุ้นอีกครั้ง ซื้อได้ในราคาต่ำสุดเท่าไหร่ กำไรเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเท่านั้น “โมนิก้า” ถึงเชียร์ให้รายย่อยตะลุยซื้อหุ้นต่อไปอย่างไม่ลดละ เพราะสิ่งที่เห็นในคราวนี้เป็นเรื่องเกมการเงินที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถ้ามองในแง่ของความน่าสนใจของตลาดเกิดใหม่อย่างประเทศไทย ยิ่งดึงดูดใจเหล่านักลงทุนสถาบันให้หวนกลับเข้ามาซื้อเจ้าค่ะ
*ประเด็นนี้เหมือนกับหุ้น BTS กระชากขึ้นมาปิดที่ 9.60 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.70% “โมนิก้า” ถือเป็นแค่การเด้งกลับหลังจากราคาหุ้นลงมานานเกินไป จึงต้องติดตามดูต่อไปว่า การขึ้นเที่ยวนี้จะมีโอกาสวิ่งขึ้นไปถึงบริเวณ 10 บาทได้หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ก็โดนถล่มจนหมอบราบคาบแถวบริเวณ 9.50 บาท วันนี้จึงเป็นการชี้ชะตาอย่างแท้จริงนะค่ะ
*ใช่จะมีแต่เรื่องร้ายๆ เพราะแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้น ITD STECเสมือนเป็นตัวส่งสัญญาณให้รู้ว่า เค้กก้อนใหญ่รออยู่ตรงหน้า ซึ่งเรื่องที่ทุกคนยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวอย่างเต็มใจ โพซิชั่นการลงทุนเที่ยวนี้ถึงเด้งกลับมาที่หุ้น 2 ตัวนี้อีกครั้ง..นาทีถึงกล้าออกตัวให้เป็นชาวไล่อย่างเดียว รายแรกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.85 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4% ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 23.10บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4% บอกได้แค่ว่าไม่ซื้อแล้วจะเสียใจนะตัวเอง..อิอิอิ
*เหมือนกับในรายของ BEAUTYเผลอแป๊บเดียว เตรียมตัวจะขึ้นไปทดสอบhighเดิมที่ระดับ 4.50 บาท หลังจากปลายสัปดาห์ที่แล้วกระชากขึ้นมาปิดที่ 4.26บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขายเกือบ 250 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า สำนักข่าวกรองส่วนตัวของเดี๊ยนไม่ธรรมดา แถมข้อมูลที่รายงานก็ถูกต้องตรงตามหลัก จึงค่อนข้างมั่นใจว่า การเทคตัวขึ้นเที่ยวนี้จะเป็นการเปลี่ยนถ่ายฐานแนวรับให้สูงกว่าเดิม หุ้นถึงแรงผิดหูผิดตาอย่างไม่น่าเชื่อ..ทราบแล้วเปลี่ยน
*สำหรับในรายของ PRECHAจู่ๆ มีวอลุ่มโป่งขึ้นมาอย่างช้าๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่นิยม จู่ๆ วานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 3.22 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น “โมนิก้า” ชักเริ่มตงิดใจว่า มีอะไรในก่อไผ่หรือเปล่า? เมื่อมองหุ้นที่เคยมีข่าวรักๆ ใคร่ๆ แล้วมองดูหุ้นตัวนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันคล้ายๆ กันชอบกลจึงต้องดูกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง เดี๋ยวความจริงก็คงปรากฏให้เห็นเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายที่ความจริงปรากฏให้เห็นเด่นชัดแล้วแน่ๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู UPAในที่สุดหัวเรือใหญ่อย่าง “อุปกิต ปาจรียางกูร” ก็ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า โรงไฟฟ้าที่พม่าเฟสแรก 20 เมกฯ ได้เดินเครื่องจ่ายไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับรับรู้รายได้เข้ามาในทันที ขณะที่เฟส 2 ซึ่งมีกำลังการผลิต 200 เมกฯ และเฟส 3 ขนาดกำลังการผลิต 300 เมกฯ ก็จะตามหลังมาติดๆ ส่วนราคาหุ้นในกระดานยังนิ่งอยู่ที่ 2.74 บาท มันเป็นโอกาสสำหรับคนที่มองการณ์ไกลนะจะบอกให้
*ประเด็นดังกล่าวเทียบได้กับหุ้นสุดฮอตอย่าง EA ซึ่งทำให้เดี๊ยนต้องเม้าท์ถึงทุกครั้งเมื่อเห็นหุ้นเริ่มขยับ เพราะมันหมายถึงคนบางกลุ่มเริ่มรับรู้ถึงข่าวดีบางอย่าง จึงไล่ซื้อหุ้นกันอย่างสนุกสนาน ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 24.60บาท บวกไป 0.70บาท หรือขึ้นไป 3% “โมนิก้า” ขอเดาในทันทีว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับการต่อยอดธุรกิจพลังงานอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นประเด็นไหน “น้องอมร” ตอบได้ดีสุดเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ TSE ทุกคนต่างรู้ดีว่าอนาคตของบริษัทแจ่มแจ๋วขนาดไหน? และโมเดลในการทำธุรกิจแข็งแกร่งเพียงใด? “โมนิก้า” คงไม่ต้องสาธยายให้ฟังจนหูชา เพราะเพียงแค่เห็นราคาหุ้นในกระดานขยับขึ้นมาปิดที่ 6.55บาท บวกไป 0.30บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นขึ้น เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ตัวเลขกำไรในปี 58 เลิศแน่นอน เชื่อหัวเจ๊โมเถอะ!