ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน จับตาสหรัฐฯ-จีนเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ารอบ 2 สัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวอยู่ทั้งแดนบวกและลบ อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐและจีนกำลังร่วมมือกันเพื่อเปิดทางให้บริษัท ZTE ของจีนสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง หลังจากที่ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ

โดย ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นล่าสุดอยู่ที่ 22,870.50 จุด เพิ่มขึ้น 4.07 จุด, +0.02% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนล่าสุดอยู่ที่ 3,178.65 จุด เพิ่มขึ้น 4.05 จุด, +0.13% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 31,423.10 จุด ลดลง 107.75 จุด, -0.34% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,965.08 จุด เพิ่มขึ้น 12.69 จุด, +0.12% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,476.87 จุด เพิ่มขึ้น 0.76 จุด, +0.03% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,557.05 จุด ลดลง 5.41 จุด, -0.15% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,857.22 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด, +0.37%

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐและจีนกำลังร่วมมือกันเพื่อเปิดทางให้บริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ซึ่งการทวีตข้อความดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นก่อนที่สหรัฐและจีนจะเจรจาการค้ารอบที่ 2 ในสัปดาห์นี้ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าที่เกิดขึ้น

โดย เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับ ZTE เป็นเวลา 7 ปี อันเนื่องมาจาก ZTE ได้ขายสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร โดยการออกมาตรการดังกล่าวของสหรัฐส่งผลให้ตลาดการเงินวิตกกังวลว่าจะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อ ZTE เนื่องจากบริษัทสหรัฐได้จัดหาชิ้นส่วนต่างๆซึ่งใช้ในการผลิตอุปกรณ์ของ ZTE ในสัดส่วนราว 20-30% ของอุปกรณ์ทั้งหมดของ ZTE ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน และชิ้นส่วนที่ใช้ในการสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม