สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 17 พ.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3.10% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนยังไม่มีการส่งสัญญาณในด้านบวกจนถึงขณะนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,713.98 จุด ลดลง 54.95 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,720.13 จุด ลดลง 2.33 จุด หรือ -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,382.47 จุด ลดลง 15.82 จุด หรือ -0.21%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 ในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเมืองในอิตาลีอย่างใกล้ชิด โดยพรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ของอิตาลีเตรียมยื่นแผนการต่างๆของรัฐบาลผสม ต่อประธานาธิบดีอิตาลีในวันนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 395.79 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.ปีนี้
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,114.61 จุด เพิ่มขึ้น 118.28 จุด หรือ +0.91% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,621.92 จุด เพิ่มขึ้น 54.38 จุด หรือ +0.98% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,787.97 จุด เพิ่มขึ้น 53.77 จุด หรือ +0.70%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้น หลังสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 ในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,787.97 จุด เพิ่มขึ้น 53.77 จุด หรือ +0.70%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,289.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 16.481 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 892.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 977.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐอาจจะคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดทรงตัวที่ 71.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ขยับขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3.10% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงรายงานจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียซึ่งระบุว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.74 เยน จากระดับ 110.26 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0013 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1799 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1802 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3508 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3482 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7509 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7515 ดอลลาร์สหรัฐ