MACOจ่อซื้อหุ้นบ.ย่อยVGIในมาเลฯ ขึ้นแท่นตัวแทนกลุ่มลุยสื่ออาเซียน ชงแผนเพิ่มทุนขายPP-RO

บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด(มหาชน) หรือ MACO ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนเข้าซื้อกิจการ VGI Global Media (Malaysia) Sdn. Bhd. หรือ VGM บริษัทย่อยของบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ในประเทศมาเลเซีย ในสัดส่วนร้อยละ 75 ของหุ้นทั้งหมดของ VGM ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 360 ล้านบาท จาก VGI ซึ่งภายหลังการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้ VGI จะยังคงสัดส่วนถือหุ้นใน VGM คิดเป็นร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดของ VGM

โดยนาย พุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MACO เปิดเผยว่า การลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ MACO ซึ่งต่อจากนี้ MACO จะเป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัท VGI ในการขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านไปยังต่างประเทศ

สำหรับ VGI Malaysia (VGM) นั้นมีเครือข่ายในประเทศมาเลเซียที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เป็นผู้เล่นรายใหญ่ของสื่อในสนามบิน ครอบครองสิทธิบริหารสื่อในมาเลเซีย และยังมีเครือข่ายสื่อนอกบ้านอื่นภายใต้การดูแลอีกหลายจุด การเข้าลงทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมเครือข่ายสื่อโฆษณาของ MACO ในประเทศมาเลเซียให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในปัจจุบัน VGM ถือหุ้นอยู่ในบริษัท Titanium Compass (TCSB) ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการทำสื่อโฆษณาในรถไฟฟ้าสายใหม่ในประเทศมาเลเซียเป็นระยะเวลา 10 ปี และยังถือหุ้นอยู่ใน บริษัท Meru Utama Sdn. Bhd.ผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในสนามบินทั้งสนามบินหลักและสนามบินสำหรับสายการบินโลว์คอสต์ ในประเทศมาเลเซียที่มีผู้โดยสารมากกว่า 61 ล้านคนต่อปี

ขณะเดียวกัน VGM ยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีความหลากหลายในประเภทอื่นอีกมายมาย อาทิ สื่อโฆษณาบิลบอร์ดกลางแจ้ง สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน สื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้า สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ เป็นต้น

โดยปัจจุบัน VGM นับว่าเป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งของสื่อโฆษณาในสนามบินของมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดการณ์ว่าจากจำนวนสื่อที่ VGM มีอยู่บวกกับพันธะสัญญาทางธุรกิจแบบเอ็กซ์คลูซีฟในระยะยาว จะส่งผลให้ VGM สามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน(Transit) ได้ภายใน 3 ปีได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้หากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นผลสำเร็จจะส่งผลดีต่อ MACO ในการขยายเครือข่ายสื่อโฆษณาไปยังภูมิภาคอาเซียนทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ให้กับบริษัทในอนาคตอีกด้วย คาดว่าธุรกรรมนี้จะแล้วเสร็จไม่เกินไตรมาส 3/61 ซึ่งจะได้ต้องได้การอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 31 พ.ค.2561 ก่อน

นอกจากนี้บอร์ดบริหารยังได้มีมติเห็นชอบอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 2,407 ล้านหุ้น เพื่อรองรับ 1) การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด ( Private Placement) จำนวน 344 ล้านหุ้น 2) การออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวน 688 ล้านหุ้น และ 3) การออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิฯ MACO-W2  จำนวน 1,376 ล้านหุ้น โดยการเพิ่มทุนเหล่านี้จะถูกเสนอแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติในลำดับถัดไป