AUCT ราคาหุ้นรอบใหม่?…จากกำไรแกร่ง

คุณค่าบริษัท

ถือเป็นเรื่องดีต่อนักลงทุนบรรดาผู้ถือหุ้น AUCT หรือ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เนื่องด้วยราคาหุ้นมีการฟื้นตัวขึ้นจนสามารถวิ่งผ่านเส้น Moving Average 10, 25, 75 และ 200 วันไปได้ หลังจากก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวใต้เส้นดังกล่าว และที่สำคัญสัญญาณเทคนิค อย่าง Slow Stochastic, MACD และ RSI ต่างผงกหัวขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้วอลุ่มการซื้อขายเริ่มเข้ามาหนาแน่นมากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา

*ทั้งนี้ ราคาหุ้น ณ วันที่ 15 พ.ค. 2561 ปรับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.65 บาท

ด้วยสัญญาณหุ้นทุกตัวเคลื่อนไหวเป็นขาขึ้นชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับราคาหุ้นที่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อนั้น  เป็นเพราะรับอานิสงส์จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ประกาศออกมาเติบโตอย่างสดใสนั่นเอง

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 161.29 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 151.62 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 41.52 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 33.01 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น

ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นด้วยแรงหนุนจากรายได้ค่าบริการประมูลรถที่โต 6.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะปริมาณรถในระบบหมุนเวียนมากขึ้นหลังโครงการรถคันแรกครบรอบ 5 ปี บวกกับบริษัทมีนโยบายขยายฐานคู่ค้าใหม่ ๆ  ให้มีจำนวนมากขึ้นในกลุ่มคู่ค้าที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เช่น กลุ่มบริษัทรถเช่า

อีกทั้งต้นทุนและค่าใช้จ่ายหลักของ AUCT เป็นต้นทุนคงที่ (ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าสาธารณูปโภค) ทำให้เมื่อรายได้เติบโตจึงหนุนให้เกิดผลประหยัดต่อขนาดดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 52.9% จากช่วงไตรมาส 1/2560 ที่ 48.3% และ SG&A/Sales ลดลงเหลือ 21.0% จากช่วงไตรมาส 1/2560 ที่ 21.6% ทำให้ช่วงไตรมาส 1/2561 ของ AUCT มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 25.8% จากช่วงไตรมาส 1/2560 ที่ 21.8%

ประเด็นต่อมาหลังจากที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2561 ออกมาเติบโตได้สดใส ทำให้นักวิเคราะห์ บล.เออีซี ประมาณการกำไรทั้งปี 2561 โดยคาดจะมีกำไรสุทธิ 134.4 ล้านบาท พลิกโต 29.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยปัจจัยหนุนดังนี้ 1) สัญญาณเชิงบวกจากตลาดรถมือหนึ่ง โดยช่วงไตรมาส 1/2561 (ม.ค.-มี.ค. 2561) ประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ในประเทศเติบโต 12.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับเป็นการเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 ซึ่งโดยปกติแนวโน้มตลาดรถมือสองจะมีทิศทางเช่นเดียวกับแนวโน้มตลาดรถมือหนึ่ง เพียงแต่ตลาดรถมือสอง (ธุรกิจปลายน้ำ) จะเกิดขึ้นช้ากว่าตลาดรถมือหนึ่ง (ธุรกิจต้นน้ำ)

2) แผนเปลี่ยนคลังสินค้าในต่างจังหวัดเป็นลานประมูล เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายการประมูลแบบสัญจร และ 3) การกระจายความเสี่ยงสินทรัพย์นอกเหนือจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เช่น รถการเกษตร สินค้าแบรนด์เนม และการให้บริการแก่หน่วยงานราชการ

เพื่อสะท้อนแนวโน้มกำไรปี 2561 จะพลิกกลับมาโตสดใสจากแผนเจาะตลาดใหม่ End User นอกเหนือไปจากการรักษาฐานลูกค้าเดิมในกลุ่มเต็นท์รถ จึงแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 7.45 บาท

ผลจากกรณีดังกล่าว เชื่อว่าจะป็นช่วงเขับเคลื่อนให้ราคาหุ้นสามารถขึ้นไปทดสอบราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ที่ 7.45 บาท พร้อมกับลุ้นวิ่งผ่านแนวต้านแรก 5.80 บาท

นอกจากนี้หากผ่านแนวต้านแรกสำเร็จราคาหุ้นมีโอกาสไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 6.15 บาท และแนวต้านถัดไปที่ระดับ  7.45 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้!

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายภาคภูมิ ศิลา 137,499,000 หุ้น 25.00%
2. น.ส.ธิดารัตน์ ศิลา 137,495,000 หุ้น 25.00%
3. น.ส.พิชญ์สินี เสรีวิวัฒนา 24,561,400 หุ้น 4.47%
4. นายเทพทัย ศิลา 22,450,000 หุ้น 4.08%
5. น.ส.พิมพ์ศิริ เสรีวิวัฒนา 14,000,000 หุ้น 2.55%

รายชื่อกรรมการ

1. นายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ประธานกรรมการ
2. นายสุวิทย์ ยอดจรัส ประธานกรรมการบริหาร
3. นายสุวิทย์ ยอดจรัส กรรมการ
4. นายเทพทัย ศิลา รองประธานกรรมการ
5. นายเทพทัย ศิลา กรรมการผู้จัดการ