โบรกฯ แท็กทีมแนะ “ซื้อ” BGRIM อิงกำไร Q2 โตต่อ-ตัวเต็งเข้า SET50 รอบใหม่
โบรกฯ แท็กทีมแนะ "ซื้อ" BGRIM อิงกำไร Q2/61 โตต่อ พ่วงตัวเต็งเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ พร้อมวางเป้าสูง 36.60 บ. อัพไซด์พุ่งปรี๊ด 36%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้สำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM หลังราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง 2 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 28 บาท เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2561 กระทั่งวานนี้ (22 พ.ค.) ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 27 บาท ลบ 0.75 บาท หรือ 2.70% มูลค่าซื้อขาย 494.79 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 36.60 บาท อยู่ 36%
ทั้งนี้พบว่า นักวิเคราะห์ส่วนในมอง BGRIM มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนี SET50 รอบใหม่ค่อนข้างสูง ส่วนผลประกอบการยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นก้าวกระโดด จากการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยนักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำเก็งกำไร BGRIM เนื่องจากคาดว่าจะเข้า SET50 รอบใหม่
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมาย BGRIM ที่ 36.60 บาทต่อหุ้น รับ High Season ของธุรกิจ และมีการขยายกำลังการผลิต
รวมถึงนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BGRIM ให้ราคาเป้าหมาย 34 บาทต่อหุ้น โดยพื้นฐาน BGRIM ค่อนข้างดี และคาดว่าจะเข้า SET50 รอบใหม่ ซึ่งคาดว่า ตลท. จะประกาศในช่วงกลางเดือน มิ.ย.2561 และจะมีผลวันที่ 1 ก.ค.2561
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BGRIM ราคาเป้าหมาย 32 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 2/61 จะอยู่ที่ 444 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด 39% เทียบจากปีก่อน หนุนโดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นใหม่จากโรงไฟฟ้า ABPR3 (โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 74 เมกะวัตต์ เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ก.พ. 2561)
รวมถึงโรงไฟฟ้า ABPR4 (โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 74 เมกะวัตต์ เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน มิ.ย. 2561) กำไรหลักคาดโต 21% เทียบจากไตรมาสก่อน หนุนโดยกำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การรับรู้ได้ทั้งไตรมาสจากโรงไฟฟ้า ABPR3 กอปรกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของอัตราค่าไฟและการผลิตไฟฟ้า ขณะที่ยังคาดว่ากำไรหลักปี 2561 จะอยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท
รวมทั้งนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BGRIM ราคาเป้าหมาย 32 บาทต่อหุ้น โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 2/61 โตขึ้นอีก จากการเดินเครื่องโรง ABPR3 เต็มที่มากขึ้นและเริ่มขายไฟให้ลูกค้าอุตสาหกรรมตั้งแต่เดือนเม.ย และคาดโครงการ ABPR4 และ ABP5 (โรงละ 133 MW ถือหุ้น 55%) มีกำหนดจะ COD ในเดือนมิ.ย. และ ต.ค. ตามลำดับ ตามด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำแช 16 MW และโครงการ Solar ราชการ 31 MW ในปลายปี
ทั้งนี้จากการทยอย COD ของกำลังผลิตใหม่ คงคาดกำไรปกติปี 2561 โตสูง 40% โดยกำไรปกติไตรมาส 1/61 เป็นสัดส่วน 21% ของคาดทั้งปี และคาด 5 ปีข้างหน้า โตเฉลี่ย 22% ต่อปี (CAGR) โดยมี Upside โอกาสการลงทุนโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการ Solar ในเวียดนามที่มีแนวโน้มความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 2/61