เก็บหุ้น SET50 พื้นฐานแกร่งลุ้นเด้งแรง! ชู P/E ต่ำ-ราคาร่วงหนักเกิน10%
เก็บหุ้น SET50 พื้นฐานแกร่งลุ้นเด้งแรง! ชู P/E ต่ำ-ราคาร่วงหนักเกิน10%
ในช่วงเดือนพ.ค.นี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET ปรับตัวลดลงต่อเนื่องโดยเห็นได้จากดัชนียืนที่ระดับ 1791.13 จุด (2 พ.ค.) ปรับตัวลดลงลดลง 56.59 จุด หรือลดลง 3.16% มาอยู่ที่ระดับ 1734.40 จุด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาตินับตั้งแต่วันที่ 1-28 พ.ค.61 ได้ขายสุทธิรวม 39,611 ล้านบาท และนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 พ.ค.61 พบว่านักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิรวม 119,178 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้น Fund Flow ต่างชาติยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง โดยแรงเทขายที่เกิดขึ้นอยู่ในหุ้นกลุ่ม SET50 และราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลงแรงจนเกินพื้นฐาน
อย่างไรก็ตามวันนี้(30พ.ค.)มีประเด็นศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินร่าง พรป.เลือกตั้ง สส.จะผ่านอีกฉบับหรือไม่ หากผ่านตรงนี้ก็น่าจะหนุนความเชื่อมั่นของตลาดกลับคืนมา และตลาดหุ้นน่าจะกลับมาลงทุนได้ดีตลอดเดือน มิ.ย.61 และหนุนให้ตลาดหุ้นกลับขึ้นไปทดสอบแถว 1,800 จุด อีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นการขายปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติก็เชื่อว่าจะลดลงตั้งแต่สัปดาห์นี้
จากปัจจัยดังกล่าว“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”จึงทำการสำรวจราคาหุ้นกลุ่ม SET50 ในช่วงดังกล่าวมานำเสนอ โดยเห็นว่าหุ้นดังกล่าวมีพื้นฐานแข็งแกร่งและที่สำคัญเป็นเป้าหมายของนักลงทุนในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันหากปัจจัยบวกดังกล่าวชัดเจนก็มีลุ้นที่ราคาหุ้นหลายตัวที่ปรับตัวลงแรงจะดีดกลับได้เร็วดังตารางประกอบ
ทั้งนี้หากสังเกตราคาหุ้นทั้ง 50 ตัวในช่วงต้นเดือนพ.ค.-28 พ.ค.61 จะพบว่ามีหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมากถึง 31 ตัว โดยหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเกิน 10% อาทิ SAWAD,BEAUTY,DTAC,MINT,PTT,PTTGC
ที่สำคัญยังเป็นหุ้นที่ P/E ต่ำกว่าตลาดที่ระดับ 17.73 เท่า ณ วันที่ 28 พ.ค.61 อาทิ EGCO,TOP,SPRC , TCAP ,PSH ,KKP ,BCP ,PTTGC ,TISCO,BBL ,SCB , SCC ,PTT ,IRPC ,KTB ,TMB ,LH ,KBANK,CPF ,IVL ,TU ,INTUCH ,WHA ,SAWAD ,KCE ตรงนี้น่าจะเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก
นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่ 3 ตัวคือ KTB,TCAP,BBL โดยเห็นได้จากราคาหุ้น KTB อยู่ที่ระดับ 17.80 บาท (28 พ.ค.) ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 20.95 บาท ส่วน TCAP อยู่ที่ระดับ 51.75 บาท (28พ.ค.) ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 54.84 บาท ด้าน BBL ราคาอยู่ที่ระดับ 195.50 บาท (28พ.ค.) ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 212.41 บาท
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน