KBANKตอบรับข่าวลบไปแล้วพอควรแนะทยอยซื้อให้ราคาพื้นฐาน 280 บ.
KBANK ยังคงให้ เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยจุดเด่น คือ คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าเฉลี่ยของกลุ่ม มีการกระจายของพอร์ตสินเชื่อและรายได้ที่สมดุล มี NIM สูง การเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยดี ทำให้มี ROE แข็งแกร่ง คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 6% แนะนำทยอยซื้อ KBANK ให้ราคาพื้นฐาน 280 บาท
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (3 มิ.ย.58) ว่าธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK สินเชื่อ เดือนเม.ย.58 เติบโตดีสุดในกลุ่มแบงค์ใหญ่ โดยขยายตัว (+1.4%เทียบเดือนก่อนหน้า) ขณะที่กลุ่มเติบโต 0.6%เทียบเดือนก่อนหน้า (รวม BTMU) แต่ถ้าไม่รวม BTMU กลุ่มจะขยายตัว 0.5%เทียบเดือนก่อนหน้าโดยสินเชื่อที่เติบโต โดยหลักเป็นสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
โดย KBANK มีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อที่ดี รวมทั้งมี SME High Yield เป็นสัดส่วนที่มาก ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารอยู่ในระดับสูง
วิเคราะห์ผลกระทบจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยให้ทุกธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.13% พบว่า KBANK เป็นธนาคารที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยคาดการณ์ NIM ลดลงเพียง 0.03% และกำไรสุทธิลดลงเพียง 0.6%
การวิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity) เกี่ยวกับหนี้ด้อยคุณภาพ…KBANK แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม โดยการวิเคราะห์กรณีที่แย่ที่สุด เมื่อนำ NPL Ratio และ SM Ratio ณ สิ้นไตรมาส 1/58 มารวมกันเพื่อดูว่าธนาคารใดมีความเสี่ยงต่อการด้อยค่าของคุณภาพสินทรัพย์มากที่สุด เราพบว่า TISCO และ TCAP ยังมีความเสี่ยงสูง เพราะ TCAP มีสัดส่วน NPL Ratio ณ สิ้นมี.ค.58 สูงที่ 4.1% ขณะที่ TISCO มี SM Ratio สูงที่ 8.3% ขณะที่ KBANK มีความเสี่ยงต่ำที่สุด โดยมี NPL+SM Ratio เท่ากับ 3.70%
โดยยังคงให้ KBANK เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยจุดเด่น คือ คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าเฉลี่ยของกลุ่ม มีการกระจายของพอร์ตสินเชื่อและรายได้ที่สมดุล มี NIM สูง การเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยดี ทำให้มี ROE แข็งแกร่ง คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 6% แนะนำทยอยซื้อ KBANK ให้ราคาพื้นฐาน 280 บาท