“มนตรี” เปิดใจ 3 ประเด็นใหญ่ฉุดหุ้น MBKET ดิ่งฟลอร์ ย้ำระบบภายในได้มาตรฐาน-ทำงานมืออาชีพ

สืบเนื่องจากวานนี้ (5 มิ.ย.61) ราคาหุ้น บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดของวัน (Floor) ที่ระดับ 12.40 บาท ซึ่งคาดนักลงทุนเกิดความกังวลหลังมีกระแสข่าวลือออกมา โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ ประเด็นเรื่องการแพ้คดีกรณีฟ้องร้องกับ บล.หยวนต้า, ประเด็นเจ้าหน้าที่การตลาด MBKET ส่งข้อมูลเรื่องการซื้อขายหุ้นของ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER และประเด็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าตรวจสอบบริษัท

ล่าสุดวันนี้ (6 มิ.ย.61) นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MBKET เปิดเผย ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัลช่อง 19 และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ยืนยันว่าไม่มีการแพ้คดีดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการพิพากษาจากศาล ซึ่งจากการรายงานข่าวที่ออกมาเป็นในส่วนของการฟ้องคดีที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือหากเป็นบุคคลภายนอกจะฟ้องเป็นคดีแพ่ง และหากเป็นพนักงานของบริษัทจะฟ้องเป็นคดีแรงงาน

ส่วนประเด็นการฟ้องกลับในคดีหมิ่นประมาทเป็นเพียงแค่การประทับรับฟ้องเท่านั้น ยังไม่มีการไต่สวนและการตัดสินคดีแต่อย่างใด ดังนั้นการที่มีกระแสข่าวว่าทางบริษัทแพ้คดีความจึงไม่ตรงกับคำสั่งของศาล โดยบริษัทมีความเชื่อมั่น และยึดตามหลักฐานว่ามีจรรยาบรรณในการดูข้อมูล และไม่มีการกล่าวหาเกินข้อเท็จจริงแน่นอน

สำหรับประเด็นมีเจ้าหน้าที่การตลาดของ MBKET ปล่อยข่าวกรณีการซื้อขายหุ้น SUPER ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE จนสร้างความตื่นตระหนกเป็นเหตให้หุ้น SUPER ถูกซื้อขายเป็นจำนวนมากหลังจากนั้น นายมนตรี ระบุยอมรับว่าเป็นพนักงานของบริษัทจริง แต่คาดว่าไม่น่าใช่ต้นตอสำคัญที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการซื้อขายหุ้น SUPER โดยเบื้องต้นได้มีการตักเตือนและลงโทษพนักงานดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การดำเนินการของบริษัท

รวมถึงประเด็น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการเข้ามาตรวจสอบบริษัทฯ นั้น นายมนตรี ระบุว่าเป็นการเข้ามาตรวจสอบตามเกณฑ์ปกติ โดยยืนยันว่าบริษัทฯ ดำเนินการและบริหารงานอย่างมืออาชีพและมีจรรยาบรรณ ไม่มีการทุจริตหรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตแน่นอน พร้อมยืนยันกรณีมีข่าวลือว่า ก.ล.ต.ส่งหนังสือเตือนว่าระบบควบคุมภายในไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมภายในที่ดี และทำงานอย่างมืออาชีพและมีจรรยาบรรณ