ดักเก็บหุ้น“บลูชิพ”พื้นฐานแกร่ง-ราคาถูกลุ้นเด้งแรง! ชู P/E ต่ำ-ราคาทรุดเกิน 20%
ดักเก็บหุ้น“บลูชิพ”พื้นฐานแกร่ง-ราคาถูกลุ้นเด้งแรง! ชู P/E ต่ำ-ราคาทรุดเกิน 20%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในกลุ่ม SET50 ในรอบ 5 เดือน พบว่า ราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 29 ธ.ค.60-30 เม.ย.61 ส่วนใหญ่ปรับตัวลงมากกว่าขึ้น โดยหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมีเพียง 17 ตัว และมีหุ้นปรับตัวลดลงเพียง 33 ตัว
โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET ปรับตัวขึ้น 1.52% โดยเทียบจากดัชนียืนอยู่ที่ระดับ 1753.71 จุด (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ระดับ 1,726.97 จุด ( 31พ.ค.61) ลบไป 26.74 จุด ส่วนดัชนี SET50 ในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง0.03% จากดัชนีที่ยืนอยู่ที่ระดับ 1135.14 จุด (29 ธ.ค.60) มาอยู่ที่ 1134.76 จุด ( 31 พ.ค.61) ลบไป 0.38 จุด
ทั้งนี้จะพบว่าดัชนี SET ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาอ่อนตัวลงแรงและต่อเนื่อง โดยดัชนีอ่อนตัวลงแรงอย่างมากช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.โดยเห็นได้จากดัชนีหลุดจากระดับ 1800 จุด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนับตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.-6 มิ.ย.61 นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิรวม 132,552 ล้านบาท ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออกอย่างต่อเนื่อง แน่นอนแรงเทขายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในหุ้นกลุ่ม SET50 และส่งผลให้ราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลงแรงเกินพื้นฐาน
อย่างไรก็ตามประเด็นการเมืองมีความชัดเจนและแผนการจัดการเลือกตั้งต้นปี 62 เป็นไปตามโรดแมพที่วางไว้ ตรงนี้คาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดกลับคืนมา และตลาดหุ้นน่าจะกลับมาลงทุนได้ดีตลอดเดือนมิ.ย.61 และหนุนให้ตลาดหุ้นกลับขึ้นไปทดสอบแถว 1,800 จุด ได้อีกครั้ง โดยกลุ่มหุ้น SET50 ในรอบ 5 เดือนมีความน่าสนใจเนื่องจากกลุ่มนี้เหล่านี้มีพื้นฐานแข็งแกร่งที่สำคัญเป็นเป้าหมายของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ตรงนี้ก็น่าจะหนุนให้ราคาหุ้นหลายตัวที่ปรับตัวลงแรงดีดกลับได้เร็วอีกครั้ง
ทั้งนี้หากสังเกตราคาหุ้นทั้ง 50 ตัวในช่วงต้นเดือนม.ค.-พ.ค.61 จะพบว่ามีหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมากถึง 33 ตัว โดยหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเกิน 20% อาทิ KCE,CENTEL, MINT,EA,CBG, SAWAD นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่ 3 ตัวคือ KTB,TCAP,BBL โดยเห็นได้จากราคาหุ้น KTB อยู่ที่ระดับ 17.50 บาท (31 พ.ค.) ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 20.95 บาท ส่วน TCAP อยู่ที่ระดับ 51.50 บาท (31พ.ค.) ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 54.84 บาท ด้าน BBL ราคาอยู่ที่ระดับ 189.00 บาท (31พ.ค.) ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 212.41 บาทตรงนี้น่าจะเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก
ที่สำคัญยังเป็นหุ้นที่อ่อนตัวลงแรงยังมีค่า P/E ต่ำกว่าตลาดที่ระดับ 17.74 เท่า ณ วันที่ 6 มิ.ย. 61 อาทิ EGCO,SPRC,TOP,TCAP,PSH,KKP, BCP,TISCO,PTTGC,SCB, SCC,BBL,IRPC,PTT, KTB,LH,TMB,KBANK,IVL,CPF,TU,INTUCH,KCE,WHA, SAWAD,
ด้านที่หุ้นปรับตัวขึ้นและเอาชนะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้มีทั้งหมด 17 ตัว อาทิ PTTEP, BDMS, PTT, BTS, HMPRO, EGCO,WHA,IVL,BANPU,BEM,LH,PTTGC,CPALL,CPF,BH,GPSC,และ AOT
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน