ช่วงเก็บของ?
*หากประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบหยาบ ๆ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่เป็นจังหวะเก็บหุ้นของพวกกองทุนตัวแสบ หลังมองเห็นสตอรี่ที่จะทำให้หุ้นขึ้นช่วงสั้น ๆ มารออยู่ตรงหน้า จึงเริ่มปฏิบัติการไล่หุ้นแบบเบา ๆ ก่อนจะดันหุ้นทะลุแนวต้านสำคัญพรวดเดียวแบบนี้.. เดี๊ยนถึงต้องถามแมงเม่าปีกแข็งทั้งหลายแหล่ว่า เคยเห็นปฏิบัติการลักษณะนี้มากี่ครั้งแล้วเอ่ย!
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบหยาบ ๆ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่เป็นจังหวะเก็บหุ้นของพวกกองทุนตัวแสบ หลังมองเห็นสตอรี่ที่จะทำให้หุ้นขึ้นช่วงสั้น ๆ มารออยู่ตรงหน้า จึงเริ่มปฏิบัติการไล่หุ้นแบบเบา ๆ ก่อนจะดันหุ้นทะลุแนวต้านสำคัญพรวดเดียวแบบนี้.. เดี๊ยนถึงต้องถามแมงเม่าปีกแข็งทั้งหลายแหล่ว่า เคยเห็นปฏิบัติการลักษณะนี้มากี่ครั้งแล้วเอ่ย!
*ถ้าเคยเห็นการเล่นรูปแบบนี้มาหลายรอบ น่าจะเข้าใจการวิ่งขึ้นแรง ต่อจากนั้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,733.05 จุด ลบไป 5.65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.09 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับทุกคน และไม่มีอะไรเป็นพิเศษสำหรับการเคาะสั้น ๆ “โมนิก้า” ถึงพยายามชี้จุดให้เห็นความแตกต่างระหว่างการขึ้นแบบธรรมชาติ กับการขึ้นแบบใช้แทกติกบางอย่างเข้ามาผสมโรง เพื่อทำให้กระบวนการเล่นหุ้นมันง่ายขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ
*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ “โมนิก้า” ชอบแส่หาเรื่องชาวบ้านไปหมดทุกตำบล แถมเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งนั้นมาจากพรายกระซิบคาบข่าวมาเล่าให้ฟัง เดี๊ยนเลยกลายเป็นผู้รู้ดีไปหมดเสียทุกอย่าง บวกกับอีฉันมีข้อมูลบางอย่างอยู่ในมือเยอะพอสมควร จึงต่อจิ๊กซอว์เรื่องราวต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้นไปอีกขั้น ทำให้กล้าเดินหน้าชนกับทุกเรื่องที่ทำให้แมงเม่าเสียเปรียบพะยะค่ะ
*เหมือนกับเรื่องของ IRPC หากมองในบริบทของการดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย “โมนิก้า” ย่อมมองหุ้นตัวนี้ในด้านบวกแบบสุดซอย และยังมองเห็นโอกาสในการขยายตัวทางธุรกิจรออยู่ข้างหน้า เดี๊ยนถึงไม่หวาดหวั่นที่มีคนขุดเรื่องเก่าขึ้นมาเล่นงาน อีกทั้งผู้เล่นในตลาดหุ้นเข้าใจที่มาของเรื่องดังกล่าวอย่างถ่องแท้ หุ้นถึงยืนปิดที่ระดับ 6.60 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 436 ล้านบาทอย่างแข็งแกร่งนะซี
*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นทีเด็ด IVL มีสตอรี่ growth เป็นแบ็กอัพให้แบบนี้ ย่อมเป็นจุดที่นักเล่นเกิดความอุ่นใจมากขึ้นเป็นกอง บวกกับสัญญาณทางเทคนิคก็สอดประสานเป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงมองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 60.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการตามน้ำเพื่อลุ้นให้หุ้นวิ่งขึ้นไปหายอดเดิมที่บริเวณ 62.50 บาทอีกรอบนะจะบอกให้
*เม้าท์ถึงการเล่นรอบขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องมองย้อนมาที่หุ้น CPF เพื่อย้ำให้แฟนคลับได้รู้ว่า การขึ้นเที่ยวนี้อาจไม่ยาวสักเท่าไหร่? เพราะรอบก่อนทำได้ดีสุดแค่การขึ้นมายืนที่ระดับ 25.75 บาท ต่อจากนั้นก็ไหลลงมาเรื่อย ๆ จนลงไปถึงบริเวณ 24.40 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาวันละนิดวันละหน่อย จนวานนี้ขึ้นมายืนอยู่ที่ 25 บาท ลบไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 587 ล้านบาทไงล่ะคะ
*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่ควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง CBG กระชากขึ้นมาปิดที่ 56.25 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 7.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 580 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเกมเสี่ยงสำหรับพวกอ่อนหัด แต่สำหรับพวกปีกกล้าขาแข็ง จังหวะนี้ต้องตามไปสอยโดยไม่มีข้อแม้ เพราะการขึ้นเที่ยวนี้ได้แรงหนุนจากพวกกองทุนตัวแสบ จึงน่าจะมีการดันหุ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง และน่าจะมีบทวิเคราะห์ออกมาในทำนองธุรกิจเริ่มฟื้นตัว เพื่อช่วยบิ้วท์อารมณ์เจ้าคะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นน้องแอนขึ้นมาในทันที ANAN เพราะการขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้เป็นผลมาจากคำมั่นสัญญาของหัวเรือใหญ่ที่บอกให้ชาวหุ้นได้รู้ว่า โครงการที่มีปัญหาจะโอนได้สบายบรื๋อ และจะมีการผุดโครงการใหม่ขึ้นมาอีก หุ้นถึงขยับขึ้น 2 วันติด ๆ พร้อมกับจุดประกายความหวังจะขึ้นไปถึง 5 บาทอีกรอบแบบนี้..กล้าเข้าไปเล่นไหมเอ่ย? เพราะวานนี้หุ้นขึ้นไปถึง 4.66 บาท แล้วอ่อนตัวลงมาปิดเสมอตัวที่ 4.54 บาทนะซี
*เช่นเดียวกับการวิ่งขึ้นของ JKN ก่อนจะมาปิดที่ 10.20 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 135 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องวางแผนเพื่อทำอะไรบางอย่างตั้งแต่ตอนนี้ เพราะมองจากค่า P/E 23 เท่า ถือเป็นจุดที่ลงทุนได้สบาย ๆ สำหรับหุ้นในตลาด mai เมื่อนำมารวมกับกระแสหนังอินเดียยังแรงดีไม่มีตก และมีการหาหนังใหม่ๆ เข้ามาเติมไม่ขาดสาย..หุ้นมันน่าจะไปต่อได้อีกนะจ๊ะ
*เมื่อกระแสเก็งกำไรในตลาดเอ็ม เอ ไอ มาแรง KCM จึงติดสอยห้อยตามขึ้นมาในทันที และเที่ยวนี้ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังแต่อย่างใด เพราะหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดถึงที่ 1.27 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่พื้น ๆ สำหรับพวกเทรดสั้น ๆ แต่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักเล่นประเภทกะโปโล จึงขอแนะนำว่า ไม่เก๋าอย่าแหยม!
*ตบท้ายกันที่เรื่องของ พ่อตัวดี..อุ๊ย..พ่อดอกมะลิ JAS กันสักนิดหนึ่ง หลังพี่ท่านประกาศจ่ายปันผลเป็นจำนวนเงิน 0.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการควักเงินมาจากกำไรสะสมแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นที่เกี่ยวพันกับบุคคลหลายฝ่าย และพอเข้าใจเหตุผลที่ต้องงัดเอาวิชาตัวเบาเล่มนี้ออกมาใช้ จึงไม่แปลกใจที่เจ้าหนี้แบงก์ไทยพาณิชย์ แมงเม่าปีกแข็ง รวมทั้งขาใหญ่ ไม่มีใครส่งเสียงคัดค้าน หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 6.10 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 600 ล้านบาทไงล่ะคะ