ITEL จ่อรับทรัพย์ 140 ลบ. หลังคว้างานบริการรับฝากข้อมูลจากธนาคารเอกชน อายุสัญญา 5 ปี

ITEL จ่อรับทรัพย์ 140 ลบ. หลังคว้างานบริการรับฝากข้อมูลจากธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งน อายุสัญญา 5 ปี คาดลงนามและเริ่มให้บริการ Q3/61


บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าร่วมนำเสนอบริการศูนย์รับฝากข้อมูลให้กับธนาคารเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อให้บริการศูนย์รับฝากข้อมูล โดยมีอายุสัญญา 5 ปี มูลค่าสัญญากว่า 140 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้ บริษัทได้รับคัดเลือกเป็นผู้ให้บริการดังกล่าว เนื่องจากการออกแบบศูนย์ข้อมูลที่ได้มาตรฐาน Tier-III Standard โดยได้การรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Uptime Institute ทั้งในด้านการออกแบบ (Design Documents) และด้านการก่อสร้าง (Constructed Facility)

อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001 และมาตรฐาน Payment Card Industry Security Standard (PCI DSS)

นอกจากนี้ สถานที่ตั้งยังอยู่ที่จุดเดินทางสะดวก ห่างจากตัวเมืองกรุงเทพฯ ประมาณ 30 กิโลเมตร โดยบริษัทคาดว่าจะมีการลงนาม และเริ่มให้บริการภายในไตรมาส 3/61

ด้านนายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ ของ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทได้นำดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 หรือ Genesis Data Center เข้าร่วมนำเสนอบริการศูนย์รับฝากข้อมูลให้กับธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อให้บริการศูนย์รับฝากข้อมูล โดยมีอายุสัญญา 5 ปี มูลค่าสัญญาประมาณ 140 ล้านบาท

โดยธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ดังกล่าวจะเข้ามาใช้บริการเช่าพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์กว่า 100 แร็ค ซึ่งจะช่วยหนุนเป้าหมายยอดผู้ใช้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ไม่น้อยกว่า 30% และมั่นใจว่าจะมีลูกค้าทยอยใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 60% ภายในสิ้นปี 61 ซึ่งจะทำให้สามารถเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันที

“ทั้งปี ITEL เชื่อมั่นว่ากำไรสุทธิเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 40  โดยสเต็ปการเติบโตจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1 และเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาสในส่วนของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสในการลงทุนของภาครัฐและเอกชนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC เพราะนอกจากการลงทุนด้าน Infrastructure ต่าง ๆ ด้าน IT ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่มีการลงทุนนับเป็นโอกาสที่ดีของ ITEL” นายณัฐนัย กล่าว

สำหรับ ดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 ของ ITEL นั้นเป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 บริษัท ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำหัด (มหาชน) หรือ AIT และบริษัท.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละบริษัท อยู่ที่ 1 ใน 3 ของหุ้นและการลงทุนในบริษัทใหม่ทั้งหมด

โดยจุดเด่นของดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 คือ เป็นศูนย์ข้อมูลที่ออกแบบตามมาตรฐาน Tier-III Standard ซึ่งสามารถขยายเป็น Tier-IIII ได้ ด้วยมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสูง ก้าวนำทางเทคโนโลยีด้วยนวัตกรรมและการออกแบบโครงสร้างทาง Digital Transformation ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Uptime ทั้งในด้านการออกแบบ (Design Documents) และด้านการก่อสร้าง (Constructed Facility) มาตรฐาน ISO และ PCI โดยมีดาต้า เซ็นเตอร์เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่สามารถได้รับการรับรองคุณภาพและความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานสำคัญในระดับสากล

นอกจากนี้ยังมีศักยภาพตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดี ด้วยการรองรับน้ำหนักได้มากถึง 3,000 กิโลกรัม/ตารางเมตร ทำให้รองรับอุปกรณ์ได้ทุกชนิดตามความต้องการของลูกค้า  ด้วยระยะทางห่างจากกรุงเทพฯเพียง 30 กิโลเมตรซึ่งไม่ไกลเกินไป เมื่อเกิดเหตุขัดข้องขึ้นสามารถให้บริการได้อย่างไม่มีสะดุดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วัน ด้วย SLA 99.982% เสริมความแข็งแกร่งด้วย การให้บริการโดยเจ้าหน้าที่และทีมงานมืออาชีพ ที่เป็น 1 ในคนไทยเพียง 9 คนที่ได้รับ Certified Data Centre Expert (CDCE) ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าที่นี่เป็นดาต้า เซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ได้รับ Certified Data Centre Expert  ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าที่นี่เป็นดาต้า เซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทย

Back to top button