บลจ.กสิกรไทยเสนอ KEFF6MBHชูผลตอบแทน 2% ขาย 3-8 มิ.ย.นี้
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยจะออกกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอช (KEFF6MBH) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 3-8 มิ.ย.นี้ เพื่อเป็นทางเลือกความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยจะออกกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอช (KEFF6MBH) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 3-8 มิ.ย.นี้ เพื่อเป็นทางเลือกความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MBH จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. และตราสารหนี้ Banco Santander (Brasil) S.A., ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
นายชัชชัย กล่าวว่า การที่อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ของไทยปรับลดลง 1.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนเม.ย. ออกมาอยู่ที่ระดับ 45.2 โดยปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.4 นอกจากนี้ ธปท.ได้ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/58 จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และเปราะบาง พร้อมทั้งยอมรับว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ปีนี้อาจจะออกมาต่ำกว่าระดับ 3.8% จากที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้า
โดยธปท.จะมีการปรับลดประมาณการ GDP ใหม่ จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ ในมุมมองของบลจ.กสิกรไทยคาดว่า กนง.น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยจะยังทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องหรืออาจมีการปรับลดลงได้เพิ่มเติม หากตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 58 ยังออกมาต่ำกว่าที่คาด หรือยังมีการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจน ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเป็นแหล่งพักเงินและรอดูจังหวะการลงทุนเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย